xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.ลุยตรวจงานเขตสุขภาพ เม.ย.สั่งทุกเขตปรับจัดสรรงบบัตรทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปลัด สธ. ย้ำไม่ขัดแย้งกับใคร แค่หลักการทำงานไม่ตรงกัน ขอให้ดูที่การทำงาน ยันเดินหน้างานเขตสุขภาพและพัฒนาการเด็กตามนโยบายนายกฯ เต็มที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจงานเขตสุขภาพตั้งแต่ เม.ย.เป็นต้นไป ส่วนการปรับเกณฑ์จัดสรรงบบัตรทองให้แต่ละเขตไปปรับดำเนินการ

วันนี้ (10 มี.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้ตรวจราชการ สธ. 12 เขตสุขภาพ ถึงกรณี ป.ป.ท.เตรียมตรวจสอบ สปสช. จึงถูกเชื่อมโยงเป็นความขัดแย้ง ว่า ขณะนี้อยากให้ดูที่การทำงานมากกว่า ขอย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่มาจากหลักการแนวคิดการทำงานที่เห็นไปคนละอย่าง ในเรื่องระบบบริการ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะตัดสินใจ จะเดินหน้าปฏิรูปหรือไม่ ขออย่าโยงว่าเป็นความขัดแย้งส่วนบุคคล ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ ตนไม่ได้ขัดแย้งกับใคร และกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนก็ไม่ทราบ ขณะนี้ขอให้มองดูที่การทำงานจะดีกว่า และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้กังวล

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีจะเอาผิดข้าราชการประจำหากกระทรวงใดไม่มีผลงานออกมา มากกว่ารัฐมนตรี นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ทุกวันนี้ก็ยังทำงานอยู่ ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหาบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงาน แต่ก็เดินหน้าทำงานอยู่ตลอด ซึ่งที่ผ่านมาตนทำงานมาตลอด อีก 6 - 7 เดือน ก่อนเกษียณก็จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุข ซึ่งการทำงานก็ยังให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสุขภาพของรัฐบาลและรัฐมนตรี สธ. ทั้งเรื่องเขตสุขภาพ การเงินการคลัง ยุทธศาสตร์กำลังคน ธรรมาภิบาล และเรื่องพัฒนาการเด็ก ซึ่งนายกฯ ให้ความสำคัญ อยากเห็นเด็กไทยฉลาด สธ.จึงจัดทำโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี ทั่วประเทศ ซึ่งสำรวจพบว่ามีพัฒนาการล่าช้า 30% โดยจะเริ่มเปิดตัวโครงการในวันที่ 1 เม.ย. นี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และ 12 เขตสุขภาพ

ในเรื่องเขตสุขภาพนั้น ตั้งแต่ เม.ย. นี้ จะลงพื้นที่ติดตามการทำงาน โดยจะดูใน 5 เรื่อง คือ 1. กลไกการจัดการเขตสุขภาพ 2. การจัดระบบบริการร่วมกันเป็นอย่างไร 3. แต่ละเขตมีการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างไร 4. การบริหารจัดการกำลังคนมีความเชื่อมโยงอย่างไร และ 5. ประชาชนจะได้อะไรจากการพัฒนาครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้แต่ละเขตก็มีการพัฒนาไปมาก ในพื้นที่แต่ละแห่งมีการพูดคุยสื่อสารมากขึ้น โรงพยาบาลใหญ่ช่วยโรงพยาบาลเล็กให้มีศักยภาพ เช่น โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) สามารถให้ยาขยายหลอดเลือด ลดอัตราเสียชีวิตลงได้ ผ่าตัดไส้ติ่งได้ ที่สำคัญคือโรงพยาบาลแต่ละระดับมีความเข้าใจมากขึ้น เกิดสายสัมพันธ์ที่ดี” ปลัด สธ. กล่าวและว่า ส่วนการเงินการคลัง ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดสรรเงินบัตรทองตามมติบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา จะดำเนินการในไตรมาสที่ 3 และ 4 ซึ่งได้ให้ผู้ตรวจฯและผู้รับผิดชอบการเงินแต่ละเขต ไปปรับการดำเนินงาน และจะติดตามปัญหาอุปสรรคทุกสัปดาห์ ซึ่งขอย้ำว่าเงินทุกบาทไม่ได้อยู่ที่ สธ. แต่ลงพื้นที่แต่ละเขตสุขภาพ เพื่อกระจายตามความเหมาะสม ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้การบริหารการเงินของโรงพยาบาลดีขึ้น เพราะเขตจะทราบดีว่าแต่ละพื้นที่ต้องบริหารการเงินอย่างไร ดีกว่าให้ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น