xs
xsm
sm
md
lg

โรคคอตีบ..ป้องกันได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

จากสถานการณ์โรคคอตีบของประเทศไทย ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ปี2552-2555 โดยเฉพาะผู้ใหญ่วัย 20-50 ปี พบว่า สาเหตุเกิดจากภูมิคุ้มกันคอตีบจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เสี่ยงป่วยเป็นโรคคอตีบได้สูง

ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงเดินหน้านำร่องฉีดวัคซีนแก่ผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ระบาด เพื่อควบคุมการระบาดของโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ปี 2556 ผู้ป่วยเริ่มลดลง และปี 2557 พบว่ายังมีผู้ป่วย 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดเกิดขึ้นอีก กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เดินหน้าฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก แก่ผู้ใหญ่อายุ 20-50 ปีทุกคนทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2557
โรคคอตีบเป็นโรคติดต่อร้ายแรงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชอบอาศัยในลำคอมนุษย์ ทำให้เกิดอาการเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ เชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงของทางเดินหายใจส่วนต้นจนอุดตัน ผู้ติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรง จนทำให้เสียชีวิตได้

โรคนี้ติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสน้ำลาย เช่น ไอ จาม รดกัน หรือพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด

อาการมักเกิดหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-5 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัวของโรค ผู้ป่วยมักจะมีไข้ รู้สึกหนาวสั่น และมีอาการเจ็บคอ บริเวณคออาจบวม ทำให้กลืนอาหารและหายใจลำบาก นอกจากนี้ผู้ป่วยมักมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต จะพบว่ามีแผ่นเยื่อสีขาวปนเทา ติดอยู่บริเวณต่อมทอนซิลและลิ้นไก่ ซึ่งเกิดจากเชื้อคอตีบปล่อยสารพิษออกมา แล้วทำลายบริเวณเนื้อเยื่อรอบๆ ให้ตายลง ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง สารพิษอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีผลเสียต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดหัวใจวายและอันตรายถึงชีวิตได้

การรักษาโรคคอตีบ ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จำกัดให้อยู่ในห้องแยกโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย โดยแพทย์จะให้ยาต้านสารพิษของเชื้อและยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ต้องมีการเฝ้าระวังเรื่องระบบทางเดินหายใจอุดตันและภาวะแทรกซ้อนในระบบไหลเวียนโลหิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอย่างใกล้ชิด

จากสถานการณ์ผู้ป่วยโรคคอตีบที่ไม่แน่นอน เราควรหมั่นดูแลตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย และลดการติดเชื้อจากโรคคอตีบ โดยรับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด และถ้าเราเคยได้รับวัคซีนมาก่อนแล้ว ควรมีการฉีดกระตุ้นทุกๆ 10 ปี แต่ถ้ายังไม่เคยได้รับวัคซีนเลย ต้องเริ่มฉีดชุดแรก 3 เข็ม ที่ 0, 1, 6 เดือน จากนั้นให้ฉีดวัคซีนซ้ำทุก 10 ปีทันที

ปัจจุบันวัคซีนคอตีบที่ใช้จะผสมรวมกับวัคซีนบาดทะยักอยู่แล้ว ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจะป้องกันได้ทั้งสองโรค ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกให้บริการฉีดทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีวัคซีนทางเลือก ซึ่งพัฒนาขึ้นและจำหน่ายในขณะนี้ เป็นการดีที่รวมวัคซีนหลายชนิดในเข็มเดียว สามารถป้องกันได้ถึงสามโรค คือ คอตีบ บาดทะยัก และไอกรน ซึ่งผู้สนใจสามารถเลือกฉีดวัคซีนชนิดนี้ เพียงแต่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเอง
-----------

พบกิจกรรมดีๆ ที่ศิริราช

ศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เชิญชวนร่วมงาน “ศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม” วันที่ 2 -5 มิ.ย. นี้ ชมนิทรรศการ ฟังเสวนาให้ความรู้ เช่น การขับขี่จักรยานบนท้องถนนอย่างปลอดภัย สาธิตการเพาะเห็ด การออกร้านจำหน่ายพรรณไม้และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ พร้อมเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีในสวน ฯลฯ ณ โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ รพ.ศิริราช

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น