“กำจร” สุ่มตรวจเยี่ยม สกสค. ระบุ คตร.- สตง. พบข้อมูลการใช้เงินผิดปกติเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถระบุชัดได้ พร้อมกำชับผู้บริหาร สกสค. มีข้อมูลให้แจ้งมาที่ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ หรือตน หรือหากกลัวให้แจ้งนายกฯ เพื่อประโยชน์ทางราชการ ระบุข่าวลือสะพัดจนขาดความเชื่อใจ เตือนใครทำผิดให้หยุดและบอกความจริงโทษหนักจะได้เบา ด้าน “สมศักดิ์” ระบุทำหนังสือขอขยายเวลามาตั้งแต่ 12 พ.ค. เหตุข้อมูลที่ชี้แจงจำเป็นต้องขอเอกสารจาก สกสค. มาประกอบ
วันนี้ (18 พ.ค.)รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบปัญหาการทุจริตภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ไปติดตามการทำงานของผู้บริหารและบุคลากรที่สำนักงาน สกสค. โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งได้พบคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และสำนักงานกาตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยงานเบื้องต้น พบว่า ข้อมูลการใช้เงินเพิ่มเติมซึ่งเกี่ยวโยงการทุจริตและโยกย้ายทรัพย์สิน แต่ยังไม่สามรถให้รายละเอียดได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าว นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กำลังประชุมกับหัวหน้ากลุ่มงาน และรองหัวหน้ากลุ่มงานต่างๆ ภายใน สกสค. ดังนั้น ตนจึงได้ร่วมประชุมและมอบนโยบาย ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความไม่สบายใจ เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับ สกสค. ขอให้ทุกคนให้ ความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบการทุจริตครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวลือมากมาย จนทำให้เกิดความไม่ไว้ใจกันภายในสำนักงาน สกสค. โดยเฉพาะในเรื่องของการให้ข้อมูลต่างๆ จึงได้กำชับไปว่า ขอให้ทุกคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับหน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ หากเป็นความลับก็สามารถรายงานที่นายพินิจศักดิ์ หรือที่ตนได้โดยตรง
“ปัญหาตอนนี้คือมีข่าวลือมากมายจนทำให้ทุกคนไม่ไว้ใจกัน ผมก็ได้ย้ำไปว่า ถ้าใครมีข้อมูลอะไรก็ขอให้นำมาเปิดเผยโดยสามารถบอกได้ที่ นายพินิจศักดิ์ หรือผมโดยตรง แต่ถ้าไม่ไว้ใจใครเลย ก็สามารถแจ้งข้อมูลไปได้ที่ นายกรัฐมนตรีอีกทางหนึ่ง โดยเวลานี้มีข่าวลือว่าหลายคนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในกระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น ผมก็บอกว่าให้ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้ามา ถ้าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็จะกันไว้เป็นพยาน ส่วนใครที่ทำไปเพราะเห็นผิดเป็นชอบ ก็ขอให้หยุด และถ้าส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับราชการเข้ามาโทษก็จะเบาลง”รศ.นพ.กำจร กล่าว
ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค. ระบุว่าได้รับหนังสือจากสำนักงาน สกสค. ที่ขอให้ชี้แจงการบริหารงานภายในวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถทำหนังสือชี้แจงกลับมายัง สำนักงาน สกสค. ได้ทันกำหนดวันที่ 8 พฤษภาคมและจะทำหนังสือขอขยายเวลากลับมานั้น ทราบว่า นายสมศักดิ์ มีการติดต่อเพื่อขอขยายเวลาการชี้แจง ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นตนไม่สามารถตอบได้
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือขอขยายเวลาและโอกาสในการชี้แจงข้อเท็จจริง มาตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม เพราะเรื่องที่ทางคณะกรรมการ สกสค. สอบถามมา เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงินซึ่งต้องชี้แจงเป็นเอกสารเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงได้ทำเรื่องขอสำเนาเอกสารทั้งหมดจาก สกสค. ซึ่งต้องใช้เวลา หากได้เอกสารดังกล่าวครบแล้วก็จะทำหนังสือชี้แจงให้เร็วที่สุด ส่วนคณะกรรมการ สกสค. จะเห็นชอบให้ขยายเวลาหรือไม่นั้นตนยังไม่ทราบ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่