ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จัดอบรมทักษะการเอาตัวรอดเมื่อประสบเหตุทางน้ำ และการช่วยเหลือคนตกน้ำอย่างถูกวิธีให้แก่เยาวชน หวังลดการสูญเสียจากเหตุการณ์จมน้ำของเยาวชน
วันนี้ (28 เม.ย.) โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้จัดโครงการ IRESCUE ตอน “เล่นน้ำปลอดภัย” เพื่อลดอุบัติเหตุทางน้ำ หรือจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเยาวชน ที่ห้องประชุมมูลนิธิพระมหาไถ่ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อให้เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 10-15 ปี ได้มีทักษะการเอาตัวรอดเมื่อประสบเหตุทางน้ำ
โดยมี น.ส.จุฑาภรณ์ หุยากรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการต่างประเทศ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เป็นประธานเปิดการอบรม และมีคณะผู้ฝึกสอนจากกองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ บรรยายให้ความรู้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมประมาณ 30 คน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 สูงกว่าอุบัติเหตุจราจร 2 เท่าและสูงกว่าการเสียชีวิตด้วยไข้เลือดออกถึง 24 เท่า โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ถือเป็นช่วง 90 วันอันตรายที่เด็กเสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตสูง เพราะเด็กมักลงเล่นน้ำคลายความร้อน และมักเล่นเป็นกลุ่ม เมื่อมีรายหนึ่งจมน้ำก็จะลงไปช่วยกัน แต่ช่วยไม่เป็นจึงจมน้ำเสียชีวิตด้วยกัน
น.ส.จุฑาภรณ์ เผยว่า โรงพยาบาลฯ ต้องการที่จะลดสถิติอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตทางน้ำ ซึ่งในบางครั้งเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดว่าการลงเล่นน้ำตื่นจะไม่เสียชีวิต แต่การตายน้ำตื้นมักเกิดขึ้นบ่อยในเด็กช่วงอายุดังกล่าว จึงจัดการสอนให้เยาวชนได้รู้ถึงเทคนิคการเอาตัวรอดเมื่อประสบเหตุทั้งภาคทฤษฎี และฝึกปฏิบัติจริงในสระว่ายน้ำ โดยในครั้งแรกจะรับเพียงแค่ 30 คน และครั้งต่อไปจะจัดในเดือนตุลาคม
ขณะที่ ร.อ.เสวก พ่วงบัลลังก์ ผู้ฝึกสอน จากกองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำสามารถทำได้ทั้งคนที่ว่ายน้ำเป็นและไม่เป็น ซึ่งการอบรมจะเน้นให้ผู้เรียนรู้ว่าหากต้องทำกิจกรรมทางน้ำต้องเตรียมตัวเช่นไร และเมื่อเจอผู้ประสบภัยต้องช่วยเหลืออย่างไรให้ตัวเองรอดปลอดภัย โดยมีเทคนิคหลักคือ การตะโกน โยน และยื่น กล่าวคือ การตะโกนร้องข้อความช่วยเหลือเมื่อเห็นคนตกน้ำ จากนั้นจึงหาหาอุปกรณ์โยนให้แก่ผู้ประสบเหตุได้ยึด โดยเป็นการสอนเทคนิคการโยนอุปกรณ์ที่มีเชือกผูกติด และการโยนอุปกรณ์ที่ไม่มีเชือกผูกติด
รวมทั้งการยื่นของให้ผู้ประสบเหตุได้ยึดในกรณีที่ผู้ประสบเหตุอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง โดยสามารถยื่นไม้ หรืออุปกรณ์ที่เป็นเชือกให้ผู้ประสบเหตุได้จับเพื่อประคองตัว