พระนครศรีอยุธยา - เกิดอุบัติเหตุพ่วง 18 ล้อ ชน 9 คันรวด บนถนนโรจนะขาเข้าพระนครศรีอยุธยา เก๋งถูกอัดก๊อบปี้ดับ 1 ผู้บาดเจ็บอีก 20 ราย
เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (21 เม.ย.) ร.ต.อ.วิเชียร ชูชาติหาญสันเทียะ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน 9 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย บริเวณก่อนถึงสี่แยกโรจนะ บนถนนโรจนะขาเข้าพระนครศรีอยุธยา กม.ที่ 9-10 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา สมาคมอยุธยารวมใจ
พบรถยนต์ชนิดต่างๆ ชนท้ายกัน 9 คันรวด กระจัดกระจายเต็มถนน โดยด้านท้ายสุดพบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 60-3049 กรุงเทพมหานคร ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 62-3050 กรุงเทพมหานคร คนขับคือ นายธีรยุทธ ทั่วกระโทก อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยรถชนอัดก๊อบปี้รถยนต์เก๋งฮอนด้า บริโอ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆว 2694 กรุงเทพมหานคร สภาพเละทั้งคัน ก่อนไปชนท้ายรถยนต์บัสรับส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียน 30-2126 พระนครศรีอยุธยาอีกคัน
ภายในรถยนต์เก๋งพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายพิษณุ ช่างม่วง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่88/137 ม.3 สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สวมใส่ชุดพนักงานโรงงานฮอนด้า เจ้าหน้าที่ต้องนำรถยกขนาดใหญ่มาลากออกจากรถพ่วง เนื่องจากใช้รถยกคันเล็กไม่สามารถนำออกมาได้ จากนั้นใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีรถยนต์ จำนวน 6 คัน ที่ถูกชนกันอยู่ด้านหน้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 รายเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงในเวลาต่อมา
นายนิรัน จันทร์หลวง อายุ 50 ปี คนขับรถยนต์กระบะหนึ่งในผู้ประสบเหตุเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนติดไฟแดงอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรถชนกันมาจากด้านท้ายเสียงดังสนั่น และชนต่อเนื่องมากระแทกรถยนต์กระบะของตน
จากการสอบสวนในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า รถยนต์บรรทุก18 ล้อ อาจจะมีปัญหาในระบบเบรกเมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุก่อนถึงสี่แยกมีรถจอดติดไฟแดงอยู่หลายคัน รถบรรทุก 18 ล้อเบรกไม่อยู่จึงพุ่งเข้าชนรถที่จอดจำนวนหลายคัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการสอบสวนจากพยาน และผู้ประสบเหตุ โดยเฉพาะตัวนายธีรยุทธ ผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุก 18 ล้อ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป