ศธ. เผยข้อมูล สกสค. ต้องรอหลังสงกรานต์ ขณะที่ ผู้ช่วยเลขา รมว.ศึกษาฯ เผยถูกครูซี 8 แต่งชุดทหาร ติดยศพันเอก อ้างชื่อเจ้าตัวเรียกค่านายหน้าจัดซื้อครุภัณฑ์เอกชน 1.8 ล้าน
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งเท่าที่ฟัง นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. รายงาน เข้าใจว่า ขณะนี้สำนักนิติการของสำนักงานปลัด ศธ. อยู่ระหว่างดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง คาดว่า หลังจากช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ น่าจะทราบความคืบหน้า และคิดว่าควรจะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย โดยตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ในฐานะกำกับดูแล สกสค. แต่คิดว่าน่าจะมีการพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข
นางสุทธศรี กล่าวว่า ทางสำนักนิติการ ยังไม่ได้รายงานข้อมูลเข้ามา คิดว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมรายละเอียด อีกทั้งยังไม่ครบกำหนด 15 วัน ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กำหนดกรอบเวลาไว้ คาดว่า หลังสงกรานต์น่าจะมีความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้าน พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้รับแจ้งจากมณฑลทหารบกที่ 22 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ว่าได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้จัดการห้างหุ้นส่วน จำกัด (หจก.) วัชรินทร์ธุรกิจกรุ๊ป อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่า มีข้าราชการครู ตําแหน่งครูวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ใส่ชุดทหารยศพันเอก ใช่ชื่อ พ.อ.ดำรงค์ แอบอ้างว่าเป็นตนเองและบอกว่าสามารถช่วยเหลือในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวหลงเชื่อ และจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการให้ 1,850,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นครูรายดังกล่าว ยอมรับว่า ผิดจริง และอยู่ระหว่างดังเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในส่วนของตนเองได้แจ้งไปยังต้นสังกัด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงรวมถึงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างต่อไป
“ที่ผ่านมา ได้ยินมาว่ามีผู้แอบอ้างนำชื่อผมไปแอบอ้างในการดำเนินการเรียกรับเงินในเรื่องต่างๆ จำนวนมาก ทั้งอ้างว่าสามารถช่วยโยกย้ายครูได้ ช่วยเหลือเรื่องการจัดซื้อจัดครุภัณฑ์ในโรงเรียนต่างๆ ถึงขั้นอ้างว่าจะเข้าไปตรวจสอบสัญญาจัดตั้งร้านค้าในโรงเรียน ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่า ผมไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และกำลังตรวจสอบทุกกรณี และต่อไปหากมีใครนำชื่อผมไปแอบอ้างในทางแสงหาผลประโยชน์ก็ให้แจ้งข้อมูลมาได้ที่ ศธ. โดยผมจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ผม และ ศธ. เสื่อมเสีย โดย รมว.ศึกษาธิการ เน้นย้ำมาตลอดการใช้งบประมาณของ ศธ. ต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า สุจริต เที่ยงตรง ตรวจสอบได้” ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า เชื่อว่าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อเพื่อนำไปแสงหาผลประโยชน์ครั้งนี้คงไม่ได้มีตนคนเดียว อาจลามไปถึงทีมงาน รมว.ศึกษาธิการ และ รมช.ศึกษาธิการคนอื่นๆ ก็อาจจะถูกแอบอ้างด้วยเช่นกัน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งเท่าที่ฟัง นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ. รายงาน เข้าใจว่า ขณะนี้สำนักนิติการของสำนักงานปลัด ศธ. อยู่ระหว่างดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง คาดว่า หลังจากช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ น่าจะทราบความคืบหน้า และคิดว่าควรจะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย โดยตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ในฐานะกำกับดูแล สกสค. แต่คิดว่าน่าจะมีการพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข
นางสุทธศรี กล่าวว่า ทางสำนักนิติการ ยังไม่ได้รายงานข้อมูลเข้ามา คิดว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมรายละเอียด อีกทั้งยังไม่ครบกำหนด 15 วัน ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. กำหนดกรอบเวลาไว้ คาดว่า หลังสงกรานต์น่าจะมีความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้าน พ.อ.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้รับแจ้งจากมณฑลทหารบกที่ 22 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ว่าได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้จัดการห้างหุ้นส่วน จำกัด (หจก.) วัชรินทร์ธุรกิจกรุ๊ป อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่า มีข้าราชการครู ตําแหน่งครูวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ใส่ชุดทหารยศพันเอก ใช่ชื่อ พ.อ.ดำรงค์ แอบอ้างว่าเป็นตนเองและบอกว่าสามารถช่วยเหลือในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวหลงเชื่อ และจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการให้ 1,850,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นครูรายดังกล่าว ยอมรับว่า ผิดจริง และอยู่ระหว่างดังเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ในส่วนของตนเองได้แจ้งไปยังต้นสังกัด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงรวมถึงเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างต่อไป
“ที่ผ่านมา ได้ยินมาว่ามีผู้แอบอ้างนำชื่อผมไปแอบอ้างในการดำเนินการเรียกรับเงินในเรื่องต่างๆ จำนวนมาก ทั้งอ้างว่าสามารถช่วยโยกย้ายครูได้ ช่วยเหลือเรื่องการจัดซื้อจัดครุภัณฑ์ในโรงเรียนต่างๆ ถึงขั้นอ้างว่าจะเข้าไปตรวจสอบสัญญาจัดตั้งร้านค้าในโรงเรียน ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่า ผมไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และกำลังตรวจสอบทุกกรณี และต่อไปหากมีใครนำชื่อผมไปแอบอ้างในทางแสงหาผลประโยชน์ก็ให้แจ้งข้อมูลมาได้ที่ ศธ. โดยผมจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ผม และ ศธ. เสื่อมเสีย โดย รมว.ศึกษาธิการ เน้นย้ำมาตลอดการใช้งบประมาณของ ศธ. ต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า สุจริต เที่ยงตรง ตรวจสอบได้” ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า เชื่อว่าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อเพื่อนำไปแสงหาผลประโยชน์ครั้งนี้คงไม่ได้มีตนคนเดียว อาจลามไปถึงทีมงาน รมว.ศึกษาธิการ และ รมช.ศึกษาธิการคนอื่นๆ ก็อาจจะถูกแอบอ้างด้วยเช่นกัน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่