xs
xsm
sm
md
lg

จวกสมาคมค้ายาสูบบิดเบือนข้อมูล หวังค้าน กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล
สสส. โต้สมาคมค้ายาสูบไทยลดคนไทยสูบบุหรี่ไม่ได้ งัดสถิติแจงจำนวนคนสูบบุหรี่ลดลงจาก 32% เหลือ 20% แนวโน้มดีกว่าประเทศอื่นทั่วโลก ย้ำเป็นความร่วมมือของภาคีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จวกพยายามบิดเบือนข้อมูลค้านการออกกฎหมาย

นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณี​สมาคมค้ายาสูบไทยคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ โดยอ้างว่าแม้จะมีมาตรการรณรงค์ลดบริโภคยาสูบ สุรา แต่สถิติคนไทยสูบบุหรี่กลับเพิ่มขึ้น ว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลระยะยาวและต่อเนื่อง พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มีผู้สูบบุหรี่ร้อยละ 32​ ปัจจุบันเหลือเพียงร้อยละ 20​ และตั้งแต่ สสส. ทำงานรณรงค์อย่างจริงจัง พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ในช่วงดังกล่าวลดลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 หรือ ​มีผู้สูบบุหรี่ลดลง 1.21 ล้านคน  ส่วนอัตราการบริโภคยังคงเดิม แต่ถือว่าดีกว่าอีกหลายประเทศทั่วโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยพบว่าเมื่อคนมีรายได้เพิ่มขึ้นยิ่งดื่มมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเศรษฐกิจดีขึ้นสองเท่าจาก 10 ปีก่อนในขณะที่ยังคงอัตราการดื่มไม่ให้เพิ่มขึ้นได้​​

นพ.บัณฑิต กล่าวว่า การทำงานด้านลดจำนวนผู้บริโภคสุรา และยาสูบเป็นประเด็นที่ซับซ้อน ไม่ใช่เพียง สสส. และภาคีเท่านั้นที่ทำให้เกิดผลสำเร็จ แต่สำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความสำคัญและทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการผลักดันกฎหมาย หรือมาตรการต่างๆ เพื่อเป้าหมายคือสุขภาพของคนไทยดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่การไปจำกัดธุรกิจหรือ เพียงแต่ในธุรกิจบางประเภทก็ไม่ควรให้สะดวกจนเกินไป เพราะผลกระทบเกิดขึ้นจากคนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่เพียงกระทบต่อตัวเองเท่านั้น แต่กระทบต่อสังคมด้วย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุม ซึ่งไม่ได้สุดโต่ง หรือเกินกว่าหลักสากล ในประเทศต่างๆ ดำเนินการอยู่

น่าสังเกตว่าตั้งแต่มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ​มีความพยายามให้ข้อมูลที่บิดเบือนต่อการดำเนินงานของ สสส. อย่างต่อเนื่อง ขอยืนยันว่า​ สสส. เป็นองค์กรที่มีรายได้ ตรงจากภาษีสุราและยาสูบ แต่กฎหมายได้ออกแบบกลไกการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกที่เข้มข้นไม่น้อยกว่าระบบราชการ ทั้งจาก​สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ผู้ดำเนินโครงการที่ได้รับทุนจาก สสส. ก็มีการกำหนดการยื่นบัญชีรับจ่ายเงิน ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)  สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งพบว่าธุรกิจยาสูบได้ทุ่มเงินมหาศาลลงสื่อเพื่อต่อต้านในคัดค้าน พ.ร.บ. ดังกล่าว ​เพื่อปกป้องผลกำไรปีละกว่า 3,000 ล้านบาทด้วย” นพ.บัณฑิต กล่าว
 
 
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น