โพลเผยประชาชนเกินครึ่งไม่รู้ว่า “ขอทาน” เป็นสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียง 14.74% ระบุชัดไม่ให้เงินขอทานเด็ก เพราะไม่สนับสนุน จี้มีหน่วยงานทั่วประเทศดูแล รบ. เร่งแก้ปัญหาจริงจัง วอนครอบครัวดูแลบุตรหลานตัวเอง
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 - 12 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “มุมมองของประชาชนที่มีต่อปัญหาขอทานเด็กในสังคมไทยปัจจุบัน” จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,449 หน่วยตัวอย่าง พบว่า เมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนเมื่อพบเห็นขอทานที่เป็นเด็ก ร้อยละ 65.00 มีความรู้สึกสงสาร ร้อยละ 35.66 รู้สึกอยากให้การช่วยเหลือ ร้อยละ 27.17 ระแวงว่าไม่ใช่ขอทานจริงๆ และหากขอทานเด็กมาขอเงิน พบว่า ร้อยละ 50.53 ยังไม่แน่ใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ร้อยละ 34.73 ระบุว่าให้แน่นอน เพราะรู้สึกสงสาร มีเพียงร้อยละ 14.74 ระบุว่าไม่ให้แน่นอน เพราะไม่สนับสนุน เป็นภาระสังคม เป็นต้น
ทั้งนี้ ร้อยละ 91.32 ระบุแนวทางช่วยเหลือ 5 แนวทาง คือ 1. ส่งตัวเด็กหรือประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวไป 2. ให้เงิน 3. ให้ที่พัก 4. ให้สิ่งของหรืออาหาร 5. แนะนำอาชีพหรือช่องทางเพิ่มรายได้ ส่วนร้อยละ 81.82 มองว่าปัญหาขอทานเด็กเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข โดยร้อยละ 51.19 ระบุว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถานสงเคราะห์ และบ้านพักเด็ก เป็นหน่วยงานที่ควรเข้ามาช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังระบุถึงตำรวจ มูลนิธิ องค์กรภาคเอกชน องค์กรสาธารณประโยชน์ ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 51.84 ไม่ทราบว่าการขอทานเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และร้อยละ 81.28 จะแจ้งเบาะแสหากพบเห็นขอทานเด็กที่ถูกแจ้งว่าหายตัวไปหรือโดนกักขัง
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา “ขอทานเด็ก” มี 3 ประเด็นคือ 1. ควรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น หน่วยงานเพื่อรับแจ้งเมื่อพบขอทานเด็ก รับขอทานเด็กมาให้การศึกษา ส่งเสริมความสามารถให้เด็ก ส่งเสริมการมีอาชีพ เป็นต้น 2. รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และ 3. เริ่มจากครอบครัวให้ดูแลบุตรหลานตนเองอย่างใกล้ชิด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่