ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตปล่อยแถวระดมกวาดล้างการค้ามนุษย์ เพื่อเพิ่มมาตรการด้านการป้องกัน และกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ผู้ว่าฯ เผยสถานการณ์การค้ามนุษย์ในภูเก็ตไม่รุนแรง เหตุหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด
เมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (2 ก.พ.) ที่บริเวณลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการค้ามนุษย์ของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย พ.ต.อ.ธีรพล ทิพย์เจริญ พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์วิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนทัพเรือภาคที่ 3 ตัวแทนนายอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจ ข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสังกัดกองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ตำรวจน้ำ ตำรวจสันติบาลภูเก็ต ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครภาคประชาชน และเอกชน รวมประมาณ 379 นายเข้าร่วม
พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้าประเวณีเด็ก การบังคับค้าประเวณี ทั้งคนไทย และคนต่างด้าว การแสดงลามกอนาจาร สถานบริการที่ทำผิดกฎหมาย และอบายมุขทุกประเภท โดยให้กวดขันอย่างจริงจังนั้น เมื่อวันที่ 30 มกราคม 58 ที่ผ่านมา ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยในสังกัด และหน่วยร่วมปฏิบัติเพื่อบูรณาการแผนและการกวดขันจับกุม รวมถึงจัดทำ และปรับปรุงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่ที่เสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ และเพื่อแสดงถึงความจริงจังในการถือปฏิบัติตามสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 8 ดังนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างการค้ามนุษย์ในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การค้ามนุษย์ในปัจจุบันมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการค้าประเวณีเด็ก การบังคับค้าประเวณี และการบังคับใช้แรงงานในธุรกิจการประมง หรือธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานอื่นๆ รวมถึงการบังคับให้ขอทาน ซึ่งการกระทำต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ผิดกฎหมาย และศีลธรรมทั้งสิ้น และมีผลกระทบถึงความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น การปรับลดความน่าเชื่อถือจากองค์กรที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน การกีดกันสินค้าที่สงสัยว่าใช้แรงงานเด็ก หรือสินค้าการเกษตรที่ผลิตโดยแรงงานที่ถูกบังคับ โดยเฉพาะสินค้าภาคการประมง เป็นต้น
“สำหรับเรื่องดังกล่าวจึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มมาตรการด้านการป้องกัน และกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่โดยตรงของข้าราชการตำรวจ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีอาสาสมัครภาคประชาชนเป็นผู้ช่วยเหลือ ที่จะต้องระดมสรรพกำลังในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ไม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตเป็นอันขาด” พล.ต.ต.พชร กล่าว
พล.ต.ต.พชร กล่าวต่อไปอีกว่า กรณีการค้าประเวณีนั้น ทางตำรวจได้มีการใช้มาตรการในการป้องปรามมาก่อนแล้วไปส่วนหนึ่ง และมีผลการจับกุมเป็นระยะๆ ซึ่งในครั้งนี้จะมีการเพิ่มความเข้มให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการทำให้ลดน้อยจนหมดไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การบังคับค้าประเวณีต้องไม่มี และการค้าประเวณีเด็กต้องไม่มีโดยเด็ดขาด ส่วนเป้าหมายของการปล่อยแถวระดมกวาดล้างนั้นมีทุกสถานีตำรวจ หากมีการตรวจพบสถานบริการปล่อยให้มีการค้าประเวณีก็จะต้องลงโทษตามกฎหมาย ส่วนหนึ่งจะเป็นกฎหมายอาญา มีโทษปรับ มีโทษจำคุก และอีกส่วนหนึ่งทางปกครอง หากเป็นสถานบริการที่ได้รับอนุญาตก็จะใช้มาตรการทางปกครองโดยขอให้ปิดสถานบริการ
นอกจากนี้ ก็จะมีการใช้มาตรการล่อซื้อ และที่ผ่านมา เคยมีการใช้แล้ว และสามารถจับกุมได้ โดยความเสี่ยงของการค้ามนุษย์ของจังหวัดภูเก็ตนั้นจะเป็นเรื่องของขอทานใช้แรงงานเด็ก ซึ่งห้ามโดยเด็ดขาด รวมทั้งจุดไหนที่มีการค้าประเวณี หรือหญิงสาวต้องการขอความช่วยเหลือสามารถโทร.แจ้งมาที่ 191 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการช่วยเหลือทันที
ขณะที่ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์การค้ามนุษย์ของจังหวัดภูเก็ตนั้นถือว่าไม่ได้อยู่ในขั้นรุนแรง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเข้มงวดกวดขัน รวมทั้งในส่วนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ได้มีการกวดขันทั้งในเรื่องของการค้าประเวณี การใช้เด็กขอทาน หรือเรือประมง ซึ่งมีการประสานงานกับทางนายกสมาคมประมง รวมทั้งเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และประมงจังหวัด ทราบว่า สถานการณ์ในด้านนี้มีน้อย และไม่ปรากฏให้เห็น
“ส่วนกรณีปัญหาขอทานเด็ก และเป็นชาวต่างชาตินั้น เมื่อได้รับแจ้ง หรือรายงานทางพัฒนาสังคมฯ ได้เข้าไปดูแลตรวจสอบ และที่ผ่านมามี 1-2 ครั้ง ที่ได้ไปนำตัวเด็กที่ขอทานออกมา และโดยมากจะเป็นเด็กต่างชาติ ก็จะหาพ่อแม่ และส่งกลับออกไป โดยในขณะนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับเรื่องของการค้ามนุษย์อยู่ในระดับ 3 ส่งผลให้เกิดการกีดกันทางการค้า และภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก และรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ในการปราบปรามการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป” นายนิสิต กล่าว
หลังจากนั้น พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านนวดแผนโบราณในบริเวณพูนผลไนท์บาร์ซ่า ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 2 ร้าน ตรวจทั้งใบขออนุญาตของร้าน และตรวจอายุของพนักงานนวด ปรากฏว่า ทั้งสอง 2 ร้านมีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย และอายุของพนักงานนวดเกินอายุ 18 ปีทั้งหมด