โฆษก รบ. เผย เร่งจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งในเขต กทม. หวังช่วยสร้างอาชีพยกระดับคุณภาพชีวิต กำชับ พม. จับตากลุ่มขอทานเด็กที่อาจเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ พร้อมหนุนการสร้างความอบอุ่นในครอบครัว
วาน(12 มี.ค.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่งและขอทาน (กอค.) พร้อมจัดชุดปฏิบัติการ 10 ชุด กระจายลงพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งอย่างเข้มข้นตลอดเดือนมีนาคม โดยในช่วงวันที่ 1 - 7 มี.ค. ที่ผ่านมา พบขอทาน 58 ราย คนไร้ที่พึ่ง 62 ราย รวม 120 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนต่างด้าว 29 ราย
“จากนี้จะนำคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ บ้านมิตรไมตรี กทม. และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี โดยหากเป็นคนไทยจะได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ตรวจสอบปัญหาเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด เสริมสร้างความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ ให้สามารถหารายได้เลี้ยงตนเองและกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ หากพบเป็นผู้ป่วยจิตเวชจะถูกส่งไปยังสถานพยาบาลเฉพาะทาง ส่วนผู้ที่เป็นคนต่างด้าวจะดำเนินการส่งกลับประเทศ
นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษกับกลุ่มขอทานเด็ก ซึ่งอาจเป็นเหยื่อในกระบวนการค้ามนุษย์ และขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นขอทานหรือคนไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร. 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ท่านนายกฯ ย้ำว่า การจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง จึงฝากให้ พม. บรูณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยเพื่อทำงานในเชิงป้องกัน และแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาซึ่งมีหลายมิติ เช่น การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การติดยาเสพติด ความตึงเครียดจากสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว การตั้งครรภ์ไม่พร้อม เป็นต้น หากครอบครัวมีความอบอุ่นเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ก็จะช่วยลดจำนวนคนหนีออกจากบ้านได้มากขึ้น”
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 11 แห่ง มีสมาชิกอาศัยพึ่งพิงอยู่ 4,334 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และผู้ป่วยทางจิตเวช
วาน(12 มี.ค.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่งและขอทาน (กอค.) พร้อมจัดชุดปฏิบัติการ 10 ชุด กระจายลงพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งอย่างเข้มข้นตลอดเดือนมีนาคม โดยในช่วงวันที่ 1 - 7 มี.ค. ที่ผ่านมา พบขอทาน 58 ราย คนไร้ที่พึ่ง 62 ราย รวม 120 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนต่างด้าว 29 ราย
“จากนี้จะนำคนขอทานและคนไร้ที่พึ่งเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ บ้านมิตรไมตรี กทม. และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี โดยหากเป็นคนไทยจะได้รับการบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ตรวจสอบปัญหาเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด เสริมสร้างความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ ให้สามารถหารายได้เลี้ยงตนเองและกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ หากพบเป็นผู้ป่วยจิตเวชจะถูกส่งไปยังสถานพยาบาลเฉพาะทาง ส่วนผู้ที่เป็นคนต่างด้าวจะดำเนินการส่งกลับประเทศ
นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษกับกลุ่มขอทานเด็ก ซึ่งอาจเป็นเหยื่อในกระบวนการค้ามนุษย์ และขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นขอทานหรือคนไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร. 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ท่านนายกฯ ย้ำว่า การจัดระเบียบขอทานและคนไร้ที่พึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง จึงฝากให้ พม. บรูณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยเพื่อทำงานในเชิงป้องกัน และแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาซึ่งมีหลายมิติ เช่น การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การติดยาเสพติด ความตึงเครียดจากสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว การตั้งครรภ์ไม่พร้อม เป็นต้น หากครอบครัวมีความอบอุ่นเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ก็จะช่วยลดจำนวนคนหนีออกจากบ้านได้มากขึ้น”
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 11 แห่ง มีสมาชิกอาศัยพึ่งพิงอยู่ 4,334 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และผู้ป่วยทางจิตเวช