ปธ.กมธ.สังคมฯ สนช. เผย ผลศึกษาแก้ปัญหาเด็กถูกกระทำ เล็งมี กม. นำเด็กไปชกมวย พร้อมแก้ขอทานเด็กต่างด้าว แพทย์ แนะ ร.ร. สอนทักษะเด็กแก้จมน้ำ จี้ ควบคุมความปลอดภัยรถ ร.ร. กันลืมเด็กในรถจนเสียชีวิต เล็งสอนให้เด็กรู้จักบีบแตร
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงว่า กรรมาธิการได้ศึกษาพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนทั้งในกรณีที่ถูกกระทำ เช่น การข่มขืน ทารุณกรรม และถูกนำไปกระทำ เช่น การชกมวย เด็กจะต้องเรียนรู้ในการป้องกันตัวเอง ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายนำเด็กไปชกมวย ส่วนเรื่องการขอทาน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากมีการนำเด็กจากประเทศลาว เขมร พม่า มาขอทานในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องจับตัวการให้ได้ รวมทั้งเด็กเป็นผู้กระทำเอง เช่น ลักทรัพย์ ข่มขืนผู้อื่น ซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวกับกระทำความผิดของเด็กกำหนดตามอายุอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายอีกมาก
ด้าน นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ความปลอดภัยในเด็กพบว่ายังการเสียชีวิตยังไม่ลดลง ซึ่ง 36 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากความรุนแรงและจมน้ำ และ 60 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากโรคต่าง ๆ ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมาเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำเป็นอันดับหนึ่งแต่ละปี 1,400 - 1,600 คน แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 1,100 คน แต่เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ลดลง แต่ 5 - 12 ปี ลดลงน้อยมาก ดังนั้น อยากให้ทางโรงเรียนสร้างทักษะความปลอดภัยในเด็ก โดยเด็กต้องเรียนรู้จุดเสี่ยง การลอยตัวในน้ำ การช่วยชีวิตเพื่อนอย่างถูกวิธี การใช้ชูชีพในการเดินทางทางน้ำ ซึ่งทักษะเหล่านี้เด็กจะต้องได้รับการเรียนรู้ก่อนจบชั้นประถมปีที่ 1
นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการปล่อยเด็กไว้ในรถเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ กรณีรถบ้านคือ พ่อ - แม่ผู้ปกครองลืมเด็กไว้ในรถ ทำให้เด็กเสียชีวิตภายใน 2 ชั่วโมง เนื่องจากอากาศร้อนสูงเกินขนาด แต่ไม่ใช่ขาดอากาศหายใจ กรณีรถสาธารณะไม่เรียกว่าเป็นการลืมเด็ก แต่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของรถโรงเรียน ซึ่งจะต้องมีการนับเด็กทุกครั้งที่ลงจากรถ ถือเป็นการบกพร่องการให้บริการขั้นต่ำ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุทางโรงเรียนอ้างไม่ใช่รถโรงเรียนแต่เป็นรถของผู้ประกอบการภายนอก ขณะที่สคบ.ก็มองว่ารถโรงเรียนก็เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะฉะนั้นจะต้องพัฒนาวิธีการปฏิบัติ และหน่วยควบคุมมาตรการความปลอดภัยของรถโรงเรียน
นายวัลลภ กล่าวว่า จะทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาลเป็นการเร่งด่วนในการแก้ปัญหาเรื่องลืมเด็กไว้ในรถ โดยให้ทุกโรงเรียนได้สอนเด็กรู้วิธีบีบแตร ซึ่งจะช่วยได้เมื่อยู่ในรถ ขณะเดียวกันจะต้องมีครูนั่งอยู่ในรถไปด้วยเสมอ จะได้ช่วยตรวจนับจำนวนเด็กนักเรียน