xs
xsm
sm
md
lg

หยุด! ให้เงิน ถ้าอยากช่วย “เด็กขอทาน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จะให้ หรือ ไม่ให้? หลายคนตั้งคำถามนี้กับตัวเองอยู่ในใจ ทุกครั้งที่เห็นเพื่อนมนุษย์นั่งถือขัน แก้ว หรือภาชนะรองรับเศษสตางค์อยู่ตามทางเท้า-สะพานลอย โดยเฉพาะเมื่อเขาคนนั้นคือเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมม ผอมแห้ง ดูไร้อนาคต วิงวอนด้วยสายตาน่าเห็นใจ
ท้ายที่สุด ผู้คนที่สัญจรไปมาก็ควักเศษเหรียญให้ไป เพื่อหวังต่อลมหายใจให้พวกเขาได้มีข้าวกิน โดยหารู้ไม่ว่า เศษเงินของคุณอาจไม่ได้ช่วยชีวิต แถมยังฆ่าพวกเขาทั้งเป็นอีกต่างหาก!





เรื่องจริงจากปาก “เด็กขอทาน”

เจ้าหน้าที่: มีไอโฟนด้วยเหรอ
เด็กขอทาน: มีค่ะ
เจ้าหน้าที่: เครื่องเท่าไหร่
เด็กขอทาน: ไม่รู้แม่ซื้อให้
เจ้าหน้าที่: แม่เอาตังค์ที่ไหน
เด็กขอทาน: ตอนนั้น หนูได้เงินเยอะจากที่นั่งขอ ขายหมาไปตั้ง 2,000 เมื่อปีก่อนนั้นอีก 3,000 ได้แบงค์พันมาตั้ง 3 ใบ
เจ้าหน้าที่: ได้มาจากขายหมาเหรอ
เด็กขอทาน: (ส่ายหน้า) ได้มาจากขอทาน

นี่คือบทสนทนาที่เกิดขึ้นจริง ระหว่างเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาและเด็กขอทาน และถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์เพื่อบอกต่อให้สังคมได้รู้ว่า ความน่าสงสารที่คนส่วนใหญ่คิดเกี่ยวกับขอทาน อาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพราะ “ธุรกิจขอทาน” แบบนี้ ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบ ลึกลับซับซ้อนเกินจะคาดคิด ทั้งเกิดจากพ่อแม่เด็กบังคับให้ลูกมาขอทานเอง และเป็นเพราะเด็กถูกลักพาตัวมา อย่างที่เด็กชายจากประเทศเพื่อนบ้านรายหนึ่ง ต้องจำทนอยู่ในวังวน “สร้างบุญบนธุรกิจบาป” อยู่นานเกือบปี กว่าจะหลุดพ้นออกมาเล่าประสบการณ์จริงให้ฟัง

“เขาพาขึ้นรถเมล์มา นั่งมาจากเขมร ผ่านไปหนึ่งวันก็ให้ลงมาขอตังค์ครับ ให้นั่งใส่ขันแล้วก็นั่งไหว้ ไม่อยากทำเลย แต่เขาก็ให้ไปขอ ขอวันหนึ่งสองรอบครับ ตอนเช้า ตอนตี 4 ถึง 8 โมง ให้ได้พันนึง ถ้าไม่ได้ เขาจะตีครับ ตอนเขาตี เขาเตะด้วย แล้วตอนเย็นอีก 2 โมง ถึง 3 ทุ่ม เขาบอกให้ได้พันนึง ถ้าไม่ได้ กลับหอมา เขาก็เตะก็ตบหัว ถ้าวันไหนได้ ก็ไม่โดนตี

ตอนตี มีคนมาช่วย เขาส่งผมให้ตำรวจ ยายก็เอาตังค์ไปประกันออกมา ครั้งที่ 2 โดนตำรวจจับอีก แต่เขาไม่ให้ประกันแล้ว ส่งกลับบ้านเลย ยายก็ไปรอที่ปอยเปต เห็นเดินออกมาเขาก็จับผมไปอีก ผมหนีมาตอนเขาให้ไปซื้อน้ำเปล่า เห็นคนเดินเยอะ ผมก็วิ่งหนีเลย ยายเขาให้คนตามหา แต่หาไม่เจอ” น้องเล่าให้ฟังด้วยสำเนียงภาษาไทยไม่ค่อยจะชัดเท่าใดนัก

และ “ยาย” ที่เด็กคนนี้พูดถึง ไม่ใช่ยายซึ่งหมายถึงแม่ของแม่ แต่คือชื่อเรียกนายหน้าชาวกัมพูชาที่ซื้อตัวน้องมาตั้งแต่ตอนอายุได้ประมาณ 12 ขวบ ซื้อตัวมาจากคนที่อุปการะไว้เพราะเห็นว่าเป็นเด็กกำพร้าและขายให้นายหน้า จนกลายเป็นชะตากรรมเด็กขอทานในประเทศไทย ซึ่งมีคนคอยคุมสุดโหดให้ธุรกิจนี้ดำเนินต่อไป คนที่เด็กๆ เรียกว่า “ยาย”



อยากช่วยน้องจริง ต้องเลิกให้เงิน!


ยิ่งไม่ให้เงิน เด็กยิ่งถูกทำร้าย... นี่คือเหตุผลที่คนส่วนหนึ่งยังควักกระเป๋าสตางค์ช่วยเหลือเด็กๆ ริมทางเดินอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง แต่กลับยิ่งทำให้ปัญหาขอทานเด็กเรื้อรังและหยั่งรากลึกในสังคมเข้าไปใหญ่ วิธีเดียวที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการทารุณกรรมได้จริง คือเลิกให้เงิน จากนั้นจดจำรายละเอียดทุกอย่างให้ดี หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วแจ้งเบาะแสมาที่ 1300 เท่านั้น!

เด็กขอทานคนนี้ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่เพราะเด็กทำรายได้ไม่ตรงตามเป้า แต่เพราะพ่อเลี้ยงนำเงินที่ลูกได้จากการขอทาน ไปซื้อสุราดื่มจนเมามาย ก่อนจะเริ่มทุบตีทำร้ายลูกและชกที่ใบหน้าเด็กอย่างจังจนเลือดกำเดาไหล

เหตุผลที่เด็กถูกทำร้ายมีหลายกรณีครับ หากเราต้องการให้เด็กรอดพ้นจากการถูกทำร้าย สิ่งที่เราควรทำ คือแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบทันทีที่พบเด็กขอทาน เพื่อให้เด็กได้รับการช่วยเหลือโดยเร็ว” นี่คือคำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่หลังลงพื้นที่สำรวจเด็กขอทานครั้งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้ “โครงการยุติธุรกิจเด็กขอทาน” ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา

ส่วนขั้นตอนการแจ้งเบาะแสเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ให้พ้นทุกข์ ให้ทำตามนี้
แจ้ง ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร.ติดต่อของผู้แจ้ง
ระบุให้ชัดว่าพบเด็กในพื้นที่ไหน จำนวนกี่คน
เวลาที่พบประมาณกี่โมง และเป็นการพบครั้งแรกหรือพบเห็นบ่อยครั้ง
เพศและอายุของเด็ก
กวาดตาสังเกตดูว่าเด็กมีบาดแผลจากการถูกทำร้าย หรือมีท่าทีหวาดกลัวหรือเปล่า
มีคนควบคุมเด็กอยู่บริเวณนั้นบ้างไหม
ถ้าสามารถถ่ายรูปได้ ขอให้ถ่ายเพื่อประกอบการแจ้งเบาะแส 
แจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) สายด่วน 1300



หลากรูปแบบ “บุญ” บนธุรกิจ “บาป”

ถามว่าแจ้งเบาะแสแล้วจะช่วยอะไรได้? เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการไปสืบค้นความจริง หากพบว่ามีการทารุณกรรม บีบบังคับ หรือเป็นธุรกิจขอทานจริง เด็กจะถูกส่งตัวไปยังมูลนิธิและช่วยเหลือทันที เช่นเดียวกับหลายๆ กรณีที่ทำสำเร็จมาแล้ว

นี่คือกรณีศึกษาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในรูปแบบการนำเด็กมาขายดอกไม้ มีครอบครัวชาวพม่าที่อาศัยอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ประสานมาให้ช่วยตามหาลูกชาย อายุ 7 ขวบ ซึ่งถูกนายหน้าบังคับให้ไปขายดอกไม้ที่กรุงเทพฯ เพราะลูกชายคนหนึ่งหนีออกมาได้และให้ข้อมูลว่าตนเองถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ

เด็กบอกว่าในแต่ละวันจะถูกนายหน้ากักขังไว้ในบ้านย่านพัฒนาการ และได้กินมาม่ากับขนมเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งยังจะต้องออกไปขายดอกไม้ตามร้านอาหารต่างๆ ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. จนถึง 02.00 น. กระทั่งวันหนึ่งได้ตัดสินใจหนีออกมาพร้อมกับเพื่อน

หลังจากทราบข้อมูลทางโครงการฯ จึงทำการลงพื้นที่สำรวจในย่านพัฒนาการซึ่งพบบ้านที่เด็กถูกพามากักขังจริงตามข้อมูลที่ได้รับ โดยข้างบนของบ้านมีลักษณะเป็นห้องเช่าประมาณ 5 - 6 ห้อง ต่อมาได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลร้านอาหารและที่พักอื่นๆ เป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ จึงประสานข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อวางแผนเข้าช่วยเหลือเด็ก ปัจจุบันน้องได้เดินทางกลับสู่ครอบครัวของตนเองแล้ว ส่วนนายหน้าค้ามนุษย์ถูกศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี





เศษเหรียญของคุณ กักขังเด็กตลอดกาล!


ถ้ายังคิดไม่ตกว่าจะตัดสินใจ ให้ หรือ ไม่ให้ เงินแก่เด็กๆ เหล่านั้นดี ทางมูลนิธิได้รวบรวมสิ่งที่ควรรู้ ก่อนโยนเศษเหรียญให้เด็กขอทานด้วยความเห็นใจว่า มันมีผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ดังต่อไปนี้

เด็กจะกลายเป็นขอทานโดยสมบูรณ์ และจะต้องขอทานเช่นนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะโตและหมดความน่าสงสาร
เด็กอาจถูกนายหน้าทำร้ายร่างกายได้ตลอดเวลา แม้จะทำรายได้ตรงตามที่กำหนดไว้แล้วก็ตาม
เด็กจะหมดโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตแบบปกติสุขเฉกเช่นเด็กทั่วๆ ไป
เด็กจะไม่มีโอกาสได้จับดินสอ ปากกา หรืออ่านหนังสือ แต่เด็กจะได้จับแต่กระป๋องใส่เงินทุกวัน
เด็กจะต้องขอทานอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตามผับ บาร์ ร้านอาหาร ข้างถนน ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ล่อแหลมและอาจเกิดอันตรายกับเด็กได้
เมื่อเด็กโตขึ้นมาบางส่วนเลือกที่จะเข้าสู่วงจรการค้าประเวณี ผันตนเองไปเป็นนายหน้าที่บังคับให้เด็กมาขอทาน หรือเข้าสู่ปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ


ในทางกลับกัน หากทุกคนช่วยกันหยุดให้เงินกับเด็กขอทาน ผลที่ตามมาจะเป็นแบบนี้
รายได้ของเด็กขอทานจะลดลง
นายหน้าหรือผู้ปกครองที่จะนำเด็กมาขอทานจะลดลง เพราะไม่สามารถแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ จากการขอทานได้
ลดโอกาสที่จะเกิดเด็กขอทานหน้าใหม่ๆ
นายหน้าจะซื้อ-ขายหรือเช่าเด็กลดลง เพราะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไป เพื่อแลกกับรายได้ของเด็กขอทานที่น้อยลง
เด็กขอทานตามท้องถนนจะเหลือเพียงผู้ที่มาจากปัญหาความยากจนของครอบครัวโดยแท้จริงเท่านั้น ซึ่งการเข้าไปส่งเสริมให้เด็กเข้าสู่สถานศึกษาหรือการส่งเสริมครอบครัวย่อมทำได้ง่ายขึ้น
วงจรปัญหาเด็กขอทานหรือธุรกิจบาปจะถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง


จำไว้ว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือ “สร้างบุญ” บน “ธุรกิจบาป” ชนิดนี้ เพราะเศษเหรียญเพียงน้อยนิดของคุณ อาจกลายเป็นเครื่องมือกักขังชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้ตลอดกาล

พบเด็กขอทานหรือเด็กที่ถูกนำมาแสวงหาผลประโยชน์ แจ้งเบาะแสได้ที่เพจ “มั่นใจว่าคนไทยมากกว่า 1,000,000 คนจะไม่ให้เงินเด็กขอทาน” บนเฟซบุ๊ก (คลิกเพื่อไปยังหน้าเพจ)

ขอบคุณข้อมูลและภาพ (คลิก): เพจ “มั่นใจว่าคนไทยมากกว่า 1,000,000 คนจะไม่ให้เงินเด็กขอทาน” บนเฟซบุ๊ก
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE






กำลังโหลดความคิดเห็น