เครือข่ายบัตรทอง ปชช. ภาคใต้ ยังห่วงศึกขัดแย้ง สธ.- สปสช. ไม่นิ่ง แม้ได้ข้อสรุปขึ้นทะเบียนบัตรทอง ให้ รพ. ทำหน้าที่ตามเดิม เล็งติดตามข้อเสนอจัดสรรงบบัตรทอง สธ. และการร่วมจ่ายอย่างใกล้ชิด ด้านผู้บริโภคยินดีหนังสือคำสั่ง สธ. เป็นโมฆะ ชี้ขัด กม. ใหม่การอำนวยความสะดวกฯราชการชัดเจน
น.ส.จุฑา สังขชาติ ผู้ประสานงานเครือข่ายหลักประกันสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้ กล่าวถึงกรณีได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่จะมีการทำ MOU ในเรื่องการขึ้นทะเบียนบัตรทอง โดยให้หน่วยบริการสังกัด สธ.ดำเนินการขึ้นทะเบียนต่อไปนั้น ว่า แม้จะมีการทำ MOU เพื่อให้หน่วยบริการรับขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทองเหมือนเดิม แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่นิ่ง ไม่น่าไว้วางใจ ทั้งนี้ ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตามมาตรา 18(13) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่เขต 12 สงขลา ในวันที่ 13 ก.พ. ที่หาดใหญ่ และเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับชาติในวันที่ 21 เม.ย. ที่กรุงเทพฯนั้น เครือข่ายฯจะติดตามข้อเสนอในประเด็น ที่ยังเป็นข้อเรียกร้องของ สธ.กรณีเสนอการจัดสรรงบบัตรทองรูปแบบใหม่ รวมถึงเรื่องข้อเสนอต่อการร่วมจ่าย
“ข้อเสนอเรื่องการร่วมจ่ายมักจะเสนอเป็นระยะทำให้ก่อความกังวลต่อผู้ใช้สิทธิบัตรทอง และยืนยันข้อเสนอให้เพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองปี 2558 เป็น 3,300 บาท ซึ่งเครือข่ายจะรณรงค์และติดตามเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันที่เครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมผลักดันกันมาตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนปี 2545 จนบัดนี้ ปี 2558 ให้คงหลักการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว และต้องตรวจสอบได้ อย่างใกล้ชิดต่อไป” น.ส.จุฑา กล่าว
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ยุติได้ถือว่าดี โดยหน่วยบริการถือว่ามีความเหมาะสมที่สุดในการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทอง เพราะสะดวกกับประชาชน และดีที่หนังสือคำสั่งของรองปลัด สธ. ถือเป็นโมฆะ เพราะขัดต่อ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สนับสนุนให้ประชาชนมีความสะดวกแล้วยังก่อให้เกิดอุปสรรคอีก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
น.ส.จุฑา สังขชาติ ผู้ประสานงานเครือข่ายหลักประกันสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้ กล่าวถึงกรณีได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่จะมีการทำ MOU ในเรื่องการขึ้นทะเบียนบัตรทอง โดยให้หน่วยบริการสังกัด สธ.ดำเนินการขึ้นทะเบียนต่อไปนั้น ว่า แม้จะมีการทำ MOU เพื่อให้หน่วยบริการรับขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทองเหมือนเดิม แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่นิ่ง ไม่น่าไว้วางใจ ทั้งนี้ ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตามมาตรา 18(13) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่เขต 12 สงขลา ในวันที่ 13 ก.พ. ที่หาดใหญ่ และเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับชาติในวันที่ 21 เม.ย. ที่กรุงเทพฯนั้น เครือข่ายฯจะติดตามข้อเสนอในประเด็น ที่ยังเป็นข้อเรียกร้องของ สธ.กรณีเสนอการจัดสรรงบบัตรทองรูปแบบใหม่ รวมถึงเรื่องข้อเสนอต่อการร่วมจ่าย
“ข้อเสนอเรื่องการร่วมจ่ายมักจะเสนอเป็นระยะทำให้ก่อความกังวลต่อผู้ใช้สิทธิบัตรทอง และยืนยันข้อเสนอให้เพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองปี 2558 เป็น 3,300 บาท ซึ่งเครือข่ายจะรณรงค์และติดตามเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันที่เครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมผลักดันกันมาตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนปี 2545 จนบัดนี้ ปี 2558 ให้คงหลักการเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว และต้องตรวจสอบได้ อย่างใกล้ชิดต่อไป” น.ส.จุฑา กล่าว
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ยุติได้ถือว่าดี โดยหน่วยบริการถือว่ามีความเหมาะสมที่สุดในการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทอง เพราะสะดวกกับประชาชน และดีที่หนังสือคำสั่งของรองปลัด สธ. ถือเป็นโมฆะ เพราะขัดต่อ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สนับสนุนให้ประชาชนมีความสะดวกแล้วยังก่อให้เกิดอุปสรรคอีก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่