คณะอนุฯการเงินการคลัง สปสช. เห็นชอบการจัดสรรงบบัตรทองผ่านเขต ปรับเปลี่ยนจากการกันเงินช่วยเหลือ รพ. ขาดทุน 3% ไว้ที่กระทรวง เป็น 1 - 5% ไว้ที่ระดับเขต แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด สปสช. 9 ก.พ. นี้
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่บอร์ด สปสช. ให้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง สปสช. ไปทำแบบจำลองการจัดสรรงบประมาณบัตรทองขาลงปี 2558 โดยใช้ตัวเลขจริงในเขตสุขภาพที่ 2 และ 10 นั้น พบว่าสามารถทำได้ ซึ่งขณะนี้ในที่ประชุมคณะอนุฯการเงินการคลังได้มีการประชุมเรื่องนี้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะยังคงยึดหลักเกณฑ์เดิมก่อน คือ การกันเงิน 1% ของเงินเดือนบุคลากร สธ. ในงบเหมาจ่ายรายหัว ประมาณ 600 ล้านบาทไว้ที่ระดับประเทศ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่อง แต่ที่มีการปรับเปลี่ยนนั้นคือการกันเงิน 3% ของเงินเดือนซึ่งที่ผ่านมาจะกันไว้ที่กระทรวงจะปรับมากันไว้ที่ระดับเขต โดยสามารถกันเงินได้อยู่ที่ 1 - 5%
“การกันเงิน 1 - 5% นั้น แล้วแต่ความเหมาะสมของเขตสุขภาพ ซึ่งภายในเขตจะตกลงกันเองว่าจะกันเงินไว้เท่าไร บางเขตอาจจะกันแค่ 1% หรือบางเขตอาจจะกันเงินเต็มเพดาน 5% อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ เมื่อ สปสช. โอนเงินก้อนนี้มาแล้วการันตีได้ว่าจะไม่ถูกเรียกคืนเหมือนปีที่ผ่านมา ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนการใช้เงินได้ และการปรับเกลี่ยให้กับโรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่องได้ชัดเจน มีความแม่นยำในการจัดสรรเงินมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังติดขัดในประเด็นเทคนิคเล็กน้อยที่ยังไม่ชัดเจน คณะอนุฯการเงินการคลัง จึงได้นัดหารือกันอีกครั้งในวันที่ 5 ก.พ. ก่อนจะเสนอเข้าบอร์ด สปสช. เพื่อพิจารณาในวันที่ 9 ก.พ. ต่อไป” แหล่งข่าว กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
แหล่งข่าวแวดวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่บอร์ด สปสช. ให้คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง สปสช. ไปทำแบบจำลองการจัดสรรงบประมาณบัตรทองขาลงปี 2558 โดยใช้ตัวเลขจริงในเขตสุขภาพที่ 2 และ 10 นั้น พบว่าสามารถทำได้ ซึ่งขณะนี้ในที่ประชุมคณะอนุฯการเงินการคลังได้มีการประชุมเรื่องนี้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะยังคงยึดหลักเกณฑ์เดิมก่อน คือ การกันเงิน 1% ของเงินเดือนบุคลากร สธ. ในงบเหมาจ่ายรายหัว ประมาณ 600 ล้านบาทไว้ที่ระดับประเทศ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่อง แต่ที่มีการปรับเปลี่ยนนั้นคือการกันเงิน 3% ของเงินเดือนซึ่งที่ผ่านมาจะกันไว้ที่กระทรวงจะปรับมากันไว้ที่ระดับเขต โดยสามารถกันเงินได้อยู่ที่ 1 - 5%
“การกันเงิน 1 - 5% นั้น แล้วแต่ความเหมาะสมของเขตสุขภาพ ซึ่งภายในเขตจะตกลงกันเองว่าจะกันเงินไว้เท่าไร บางเขตอาจจะกันแค่ 1% หรือบางเขตอาจจะกันเงินเต็มเพดาน 5% อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ เมื่อ สปสช. โอนเงินก้อนนี้มาแล้วการันตีได้ว่าจะไม่ถูกเรียกคืนเหมือนปีที่ผ่านมา ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนการใช้เงินได้ และการปรับเกลี่ยให้กับโรงพยาบาลที่ขาดสภาพคล่องได้ชัดเจน มีความแม่นยำในการจัดสรรเงินมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังติดขัดในประเด็นเทคนิคเล็กน้อยที่ยังไม่ชัดเจน คณะอนุฯการเงินการคลัง จึงได้นัดหารือกันอีกครั้งในวันที่ 5 ก.พ. ก่อนจะเสนอเข้าบอร์ด สปสช. เพื่อพิจารณาในวันที่ 9 ก.พ. ต่อไป” แหล่งข่าว กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่