ปรับโครงสร้าง ศธ. ชัด สภาการศึกษา แยกไปอยู่ใต้ร่มสำนักนายกฯ เปลี่ยนชื่อใหม่ มี นายกฯ นั่งประธานบอร์ด แนวโน้มสูงผุดสภาการศึกษาจังหวัด อยู่ในระบบ ศธ. แต่ยังต้องรอฟังทิศทาง สปช. ก่อน
วันนี้ (19 ม.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การปรับโครงสร้างใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความชัดเจนแล้ว โดยเสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี จะใช้ชื่อใหม่ว่าสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ หรือ สภาการศึกษาเดิม รวมทั้งจะมีคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรัฐมนตรีประมาณ 8 - 9 กระทรวง มาเป็นรองประธานกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายพัฒนาคน พัฒนาประเทศ ขณะเดียวสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีข้อเสนอว่าควรมีสถาบันวิจัยระบบ การศึกษาและทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การจัดการความรู้ สังเคราะห์ความรู้ สร้างนวัตกรรม รวมทั้งมีเครือข่ายการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ระดับจังหวัดด้วย เพราะฉะนั้น มีแนวโน้มว่า สปช. จะเสนอให้มีสภาการศึกษาจังหวัดมีโครงสร้างอยู่ใน ศธ. ขึ้นมา
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าหน่วยงานระดับจังหวัดดังกล่าวจะให้มีส่วนของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เข้ามาอยู่ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องสภาการศึกษาจังหวัดมีการพูดมาหลายครั้งแล้ว ดูจากเอกสารที่มีการเสนอมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดขึ้นเพียงแต่ยังไม่ได้มีการประกาศ อย่างเป็นทางการ โดยในส่วนของศธ.นั้นจะต้องฟังทิศทางการ สปช.
“เมื่อมีการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. แล้ว สพฐ. เองก็จะต้องพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สพฐ. ควรจะมีหรือ ไม่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาควรต้องปรับปรุงเช่นไรและควรมีกรรมการระดับ จังหวัดหรือไม่ ทั้งนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้มอบแนวนโยบายไว้ 3 - 4 เรื่องแก่ สพฐ. อาทิ การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การปรับปรุงค่าใช้จ่ายรายหัว การพัฒนาโรงเรียนให้เป็นนิติบุคคล เป็นต้น” นายกมล กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
