กสร. เผย นายจ้างค้างหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างกว่า 400 ล้าน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจก่อสร้าง ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เตรียมเสนอของบเพิ่มเติมแก้ปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้าง 130 ล้าน
นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า กสร. ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือนายจ้างปิดกิจการแล้วไม่ได้รับเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยใช้เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจ่ายให้แรงงานไปก่อนแล้วติดตามทวงหนี้คืนจากนายจ้างภายหลัง ซึ่งขณะนี้กองทุนมีเงินเหลืออยู่กว่า 170 ล้านบาทและจะเสนอของบจากรัฐบาลในปีงบประมาณ 2559 อีกประมาณ 130 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดกรณีมีลูกจ้างถูกเลิกจ้างจำนวนมาก รวมทั้งนำงบส่วนหนึ่งมาใช้ในการดำเนินการติดตามทวงหนี้จากนายจ้าง ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2557 มีนายจ้างค้างชำระหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างประมาณ 864 ราย จำนวนลูกจ้างกว่า 59,000 คน เฉพาะในปี 2557 กองทุนได้ช่วยเหลือลูกจ้าง 2,996 คน เป็นเงิน 42 ล้านบาท โดยภาพรวมขณะนี้นายจ้างเป็นหนี้ค้างชำระเงินกองทุนประมาณ 400 ล้านบาท สถานประกอบการที่เป็นหนี้กองทุนส่วนใหญ่อยู่ในกิจการรับเหมาก่อสร้าง รักษาความปลอดภัย ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสถานประกอบการ ส่วนมากอยู่ในจังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และ ฉะเชิงเทรา
นายวรานนท์ กล่าวอีก ได้กำชับให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานทั่วประเทศ เร่งติดตามนายจ้างให้ชำระหนี้กองทุนและประเมินผลการดำเนินงานทุก 6 เดือน ซึ่งขณะนี้มีนายจ้างชำระหนี้คืนแก่กองทุนแล้วกว่า 59 ล้านบาท ทั้งนี้ กสร. ได้วางแนวทางการติดตามชำระหนี้กองทุนด้วยการแบ่งสถานประกอบการทั้งหมดออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เป็นสถานประกอบการที่ยังดำเนินการกิจการอยู่ 2. เป็นสถานประกอบการที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ และ 3. ไม่ได้ดำเนินกิจการแล้วซึ่งบางราย เช่น กรณีนายจ้างเสียชีวิตก็จะให้เป็นหนี้สูญโดยเสนอไปยังกรมบัญชีกลางพิจารณา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า กสร. ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือนายจ้างปิดกิจการแล้วไม่ได้รับเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยใช้เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจ่ายให้แรงงานไปก่อนแล้วติดตามทวงหนี้คืนจากนายจ้างภายหลัง ซึ่งขณะนี้กองทุนมีเงินเหลืออยู่กว่า 170 ล้านบาทและจะเสนอของบจากรัฐบาลในปีงบประมาณ 2559 อีกประมาณ 130 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดกรณีมีลูกจ้างถูกเลิกจ้างจำนวนมาก รวมทั้งนำงบส่วนหนึ่งมาใช้ในการดำเนินการติดตามทวงหนี้จากนายจ้าง ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2557 มีนายจ้างค้างชำระหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างประมาณ 864 ราย จำนวนลูกจ้างกว่า 59,000 คน เฉพาะในปี 2557 กองทุนได้ช่วยเหลือลูกจ้าง 2,996 คน เป็นเงิน 42 ล้านบาท โดยภาพรวมขณะนี้นายจ้างเป็นหนี้ค้างชำระเงินกองทุนประมาณ 400 ล้านบาท สถานประกอบการที่เป็นหนี้กองทุนส่วนใหญ่อยู่ในกิจการรับเหมาก่อสร้าง รักษาความปลอดภัย ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสถานประกอบการ ส่วนมากอยู่ในจังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และ ฉะเชิงเทรา
นายวรานนท์ กล่าวอีก ได้กำชับให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานทั่วประเทศ เร่งติดตามนายจ้างให้ชำระหนี้กองทุนและประเมินผลการดำเนินงานทุก 6 เดือน ซึ่งขณะนี้มีนายจ้างชำระหนี้คืนแก่กองทุนแล้วกว่า 59 ล้านบาท ทั้งนี้ กสร. ได้วางแนวทางการติดตามชำระหนี้กองทุนด้วยการแบ่งสถานประกอบการทั้งหมดออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เป็นสถานประกอบการที่ยังดำเนินการกิจการอยู่ 2. เป็นสถานประกอบการที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ และ 3. ไม่ได้ดำเนินกิจการแล้วซึ่งบางราย เช่น กรณีนายจ้างเสียชีวิตก็จะให้เป็นหนี้สูญโดยเสนอไปยังกรมบัญชีกลางพิจารณา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่