นายกทันตแพทยสมาคมฯ หนุนออก กม.คุมยาสูบฉบับใหม่ ชี้ไม่เกี่ยวข้องต่อการปลูกยาสูบ ส่งผลกระทบต่อผู้ปลูก และร้านค้าปลีกน้อย
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะแผนงานวิชาชีพทันตแพทย์ในการดำเนินงานควบคุมยาสูบ กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ที่เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีการคัดค้านจากสมาคมการค้ายาสูบไทย โดยมีบริษัทยาสูบเป็นผู้ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อล้ม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่า เป้าหมายสำคัญของกฎหมายนี้ คือ เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการเสพติดบุหรี่ จึงเป็นเรื่องที่ไร้จริยธรรมอย่างมากที่บริษัทบุหรี่สนับสนุนให้ชาวไร่ยาสูบ และผู้ค้าปลีกลุกขึ้นมาเป็นหัวหอกในการคัดค้าน โดยตัวเองแอบอยู่ข้างหลัง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วกฎหมายฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องต่อการปลูกยาสูบ และส่งผลกระทบน้อยมากต่อร้านค้าปลีกที่ขายบุหรี่ แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า เหตุที่บริษัทบุหรี่ลุกขึ้นมาหนุนเรื่องนี้สุดตัว เพราะต้องการปกป้องกำไรของตัวเองที่ตกอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล กล่าวว่า แผนงานวิชาชีพทันตแพทย์ในการดำเนินงานควบคุมยาสูบ ได้ร่วมมือกับเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพดำเนินการควบคุมรณรงค์เรื่องยาสูบในเด็กและเยาวชนมานานกว่า 10 ปี แต่ก็พบว่า อัตราการติดบุหรี่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงอยากวิงวอนขอให้สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปได้เข้าใจในสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก และเยาวชนของชาติที่จะไม่ต้องตกเป็นทาสของบริษัทบุหรี่ในอนาคตต่อไป
“หลายคนไม่รู้เลยว่า ใน 10 คนที่เริ่มเสพติดบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อย มี 7 คน ที่ต้องสูบบุหรี่ตลอดชีวิต มีแค่ 3 คนที่อาจเลิกได้ หลังจากสูบไปแล้ว 20 ปี แล้วเราจะยอมให้กำไรของบริษัทบุหรี่มีค่ากว่าชีวิตเด็ก และเยาวชนของชาติหรือ” ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะแผนงานวิชาชีพทันตแพทย์ในการดำเนินงานควบคุมยาสูบ กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ที่เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีการคัดค้านจากสมาคมการค้ายาสูบไทย โดยมีบริษัทยาสูบเป็นผู้ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อล้ม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่า เป้าหมายสำคัญของกฎหมายนี้ คือ เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการเสพติดบุหรี่ จึงเป็นเรื่องที่ไร้จริยธรรมอย่างมากที่บริษัทบุหรี่สนับสนุนให้ชาวไร่ยาสูบ และผู้ค้าปลีกลุกขึ้นมาเป็นหัวหอกในการคัดค้าน โดยตัวเองแอบอยู่ข้างหลัง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วกฎหมายฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องต่อการปลูกยาสูบ และส่งผลกระทบน้อยมากต่อร้านค้าปลีกที่ขายบุหรี่ แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า เหตุที่บริษัทบุหรี่ลุกขึ้นมาหนุนเรื่องนี้สุดตัว เพราะต้องการปกป้องกำไรของตัวเองที่ตกอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี
ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล กล่าวว่า แผนงานวิชาชีพทันตแพทย์ในการดำเนินงานควบคุมยาสูบ ได้ร่วมมือกับเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพดำเนินการควบคุมรณรงค์เรื่องยาสูบในเด็กและเยาวชนมานานกว่า 10 ปี แต่ก็พบว่า อัตราการติดบุหรี่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นในกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงอยากวิงวอนขอให้สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปได้เข้าใจในสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก และเยาวชนของชาติที่จะไม่ต้องตกเป็นทาสของบริษัทบุหรี่ในอนาคตต่อไป
“หลายคนไม่รู้เลยว่า ใน 10 คนที่เริ่มเสพติดบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อย มี 7 คน ที่ต้องสูบบุหรี่ตลอดชีวิต มีแค่ 3 คนที่อาจเลิกได้ หลังจากสูบไปแล้ว 20 ปี แล้วเราจะยอมให้กำไรของบริษัทบุหรี่มีค่ากว่าชีวิตเด็ก และเยาวชนของชาติหรือ” ศ.พิเศษ พล.ท.พิศาล กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่