xs
xsm
sm
md
lg

“ถวิล” ลั่น 29 ธ.ค. ไม่มีหมายเรียกจะนัดเข้าพบเอง จี้ตรวจสอบยักยอกเงินย้อนหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ถวิล” พร้อมให้ข้อมูล ตร.กรณียักยอกเงิน สจล. 1.6 พัน ล. ลั่นถ้ายังไม่ได้หมายเรียก 29 ธ.ค. จะโทร.นัดวันเข้าพบเอง เผยรู้จัก “อัมพร” มานาน เป็นคนเงียบๆ ยอมรับ งงเมื่อเกิดเรื่องยักยอก คาดอาจยักยอกแต่ สจล. ออกนอกระบบปี 51 จี้ตรวจสอบย้อนหลัง
นายถวิล พึ่งมา
จากกรณีที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ถูกยักยอกเงินจากบัญชีกองกลาง จำนวน 1,663 ล้านบาท จากจำนวนเงินทั้งหมด 3,000 ล้านบาท ทั้งยังพบว่าบัญชี สจล. มีความผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2555 โดยเวลานี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 4 ราย คือ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล. นายทรงกรด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ นายจิรวัฒน์ สหพรอุดมการ และนายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ ในข้อหาลักทรัพย์และปลอมแปลงเอกสาร รวมทั้งออกหมายจับ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ซึ่งมีรายงานว่าหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อย่างไรก็ตาม มีความคืบหน้าว่าทางเจ้าพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียก นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการฯ สจล. ซึ่งดำรงตำแหน่งช่วงปี 2555 มาสอบปากคำในวันที่ 29 ธันวาคม นี้

วันนี้ (28 ธ.ค.) นายถวิล กล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อมวลชนแล้วว่า พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกวันที่ 29 ธันวาคม นี้ แต่หากยังไม่ได้รับหมายในวันดังกล่าวก็จะโทรศัพท์มาขอนัดหมายวันเพื่อให้ข้อมูลเอง ซึ่งตนก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าขบวนการยักยอกเงินเกิดขึ้นในสมัยที่ตนเป็นอธิการบดีนั้น ขอยืนยันว่าการลงนามของตนแต่ละครั้งก็จะตรวจสอบอย่างละเอียด การโอนเงินจากธนาคารหนึ่งไปอีกธนาคารหนึ่งที่ให้ดอกเบี้ยที่ดีกว่า ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นนโยบายของผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยนอกระบบ ที่มีนโยบายที่จะหาดอกผลจากเงินคงคลัง ซึ่งก็จะเปิดปิดบัญชีในระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน ซึ่งก่อนที่จะลงนามอนุมัติก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ยกเว้นเอกสารที่ตนได้รับมานั้นเป็นเอกสารปลอม นอกจากนี้ทุกปีก็จะมีการตรวจสอบงบดุลบัญชีของมหาวิทยาลัยทั้งหน่วยงานภายในและภายนอก และรายงาน สภา สจล. ทุกปี

“ผมรู้จัก น.ส.อำพร มานาน บุคลิกเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย แต่มักมีปัญหาสุขภาพ บ่อยๆ เมื่อเกิดข่าวการยักยอกเงินขึ้น ก็รู้สึกงงเล็กน้อย และเพราะมีพนักงานธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็อาจทำเอกสารต่างๆ ได้แนบเนียน ทั้งเงินที่หายไปจำนวนมากถึง 1 พันกว่าล้าน ก็น่าจะทำกันมานาน อาจจะทำกันตั้งแต่ สจล. ออกนอกระบบปี 51 ก็ได้ จึงอยากให้ตำรวจช่วยสอบสวนย้อนหลังกลับไป แม้จะมีการปิดบัญชีไปแล้วก็ตาม เพื่อที่จะจับกุมออกมาทั้งขบวนการ และถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบอื่นๆ ควรตรวจสอบบัญชีการเงินของตนเอง แม้ว่าการยักยอกทรัพย์จะทำได้ยาก เพราะต้องมีพนักงานธนาคารร่วมด้วย แต่ก็ไม่ควรประมาท” นายถวิล กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น