xs
xsm
sm
md
lg

พบ “พูลศักดิ์” เครือข่ายลักเงินสถาบันพระจอมเกล้าฯ ซื้อบ้านเงินสด 24 ล้าน จ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่ได้รับการโอนเงินไปเป็นจำนวน 85 ล้านบาท ขณะเข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบฯ
รอง ผบก.ป. เผย “พูลศักดิ์” หนุ่มนักศึกษาปริญญาโท เจ้าของเงินบัญชีเงินยักยอกสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ 85 ล้าน ใช้เงินสดซื้อบ้านในราคา 24 ล้าน เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2557 ออกหมายเรียกอีก 2 ราย เจ้าของบัญชีที่ได้รับโอนเงิน จ่อออกหมายจับเครือข่ายนี้อีก 3 ราย

วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เงินกองกลางของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกว่า 1,600 ล้านบาท ว่า จากการสอบปากคำนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่ได้รับการโอนเงินไปเป็นจำนวน 85 ล้านบาท โดยการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายพูลศักดิ์ เคยซื้อบ้านด้วยเงินสดมูลค่า 24 ล้านบาท เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่ง นายพูนศักดิ์ อ้างว่าซื้อบ้านหลังดังกล่าวโดยใช้เงินที่ได้มาจากการพนันฟุตบอล แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินว่ามีความเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากการกระทำความผิดหรือไม่

พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า ภายหลังสอบปากคำ นายพูลศักดิ์ เสร็จสิ้นแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ และได้ปล่อยตัว นายพูลศักดิ์ ไปก่อน เนื่องจากเจ้าตัวได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม หากพบว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วยก็จะพิจารณาขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ได้มีการพิจารณาออกหมายเรียก นายกิติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 32 ปี และนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ อายุ 31 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินจากนายพูลศักดิ์ เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่ง ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า ทั้งสองได้ติดต่อที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเหมือนกับกรณีของนายพูลศักดิ์

นอกจากนี้ ก็จะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองการคลัง สถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูลความเชื่อมโยงในคดีนี้ส่วนความคืบหน้าการย้ายตัว น.ส.อำพร จาก รพ.ไทยนครินทร์ ย่านบางนา ไปรักษาต่อที่ รพ.ตำรวจ นั้น พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า อยู่ระหว่างรอการประสานใช้ห้องพักฟื้นผู้ป่วยที่ว่าง หรืออาจจะพิจารณาว่าจะขออำนาจศาล เพื่อคุมตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลในเรือนจำหลังจากมีการยื่นคำร้องเพื่อผัดฟ้องฝากขังแล้ว เพื่อความปลอดภัยและสะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

ต่อมา ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนหลังจากมีชื่อเข้าไปพัวพันกับกรณีการลักทรัพย์เงินกองกลางของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกว่า 1,600 ล้านบาท โดยเบื้องต้น นายพูลศักดิ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวขณะที่พนักงานสอบสวนในคดี ระบุเพียงสั้นๆ ว่า เป็นการสอบปากคำเพิ่มเติมเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวน กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับนายพูลศักดิ์ นายกิติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 32 ปี และ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่มีการถ่ายโอนเงินดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถออกหมายจับได้ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้

ส่วน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อหาความเชื่อมโยง อีกทั้งรอสัญญาณจากฝ่ายสอบสวนว่าจากการสอบปากคำพบใครมีส่วนรู้เห็นบ้างซึ่งหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะมีการเรียกมาสอบปากคำหรือดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายพูลศักดิ์ พบว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะจากการตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีของนายพูลศักดิ์นั้นมี 85 ล้านบาท โดยเป็นเงินของสถาบันเทคโนลาดกระบัง 80 ล้านบาท ส่วนอีก 5 ล้านบาทนั้นเป็นเงินที่นายทรงกลดโอนมาให้ แต่ทั้งนี้นายพูลศักดิ์ยังคงให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็นโดยบอกเพียงว่านายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนได้มาขอให้นายพูลศักดิ์เปิดบัญชีให้เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่พบความผิดสังเกตในตัวเงินและพฤติกรรมการใช้จ่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายพูลศักดิ์ได้ไปซื้อบ้านราคา 24 ล้านบาท ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ โดยมีการซื้อด้วยเงินสด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะทำการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ ง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชี รวมทั้งเส้นทางการเงินพบว่า ผู้ที่รับเงินจากนายทรงกลดและน.ส.อำพร นอกจากนายพูลศักดิ์แล้ว ยังมีนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 31 ปี ซึ่งพบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารรวม 3 บัญชี เป็นเงินประมาณ 1,600,000 บาท และนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 32 ปี มีบัญชีอยู่ในธนาคาร 6 บัญชี เป็นเงินประมาณ1,200,000 บาท ขณะที่นายพูลศักดิ์มีบัญชีธนาคารรวม 3 บัญชี เป็นเงินรวมประมาณ 1,600,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวทั้ง 3 คนมาสอบสวน

รายงานจากชุดคลี่คลายคดีระบุว่า ขณะนี้ตัวเงินที่หายไปยังไม่นิ่ง ต้องรอทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่ามีเงินหายไปจำนวนเท่าไร เนื่องจากเฉพาะบัญชีของสจล.มีมากถึง 60 บัญชี แต่เบื้องต้นพบว่าวิธีการที่ทางขบวนการนี้ทำนั้นมีการทำอยู่ 2 วิธี คือการปลอมบัญชีหรือตกแต่งบัญชี เพื่อไม่ให้พบความผิดปกติ และวิธีการถอนออกจากบัญชีไปเลย นอกจากนี้

รายงานข่าวระบุว่าทางพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง อีก 3 ราย ในข้อหา”ร่วมกันลักทรัพย์” ประกอบไปด้วย นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นายกิติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 32 ปี และนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่มีการถ่ายโอนเงินดังกล่าว หลังพบความเชื่อมโยงกัน โดยนายกิตติศักดิ์เป็นคนให้นายพูลศักดิ์ เปิดบัญชีให้ ก่อนที่นายทรงกลดจะโอนเงินจำนวน 50 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท เข้ามาให้ และเมื่อตรวจสอบบัญชีนายพูลศักดิ์พบอีกว่า นายทรงกลดได้โอนเงินมาให้อีกจำนวน 5 ล้านเป็น 85 ล้าน ต่อมานายพูลศักดิ์ก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีนายจริวัฒน์เป็นจำนวน 55 ล้าน ในวันเดียวกัน ก่อนที่นายจริวัฒน์จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าบุคคลที่นายจริวัฒน์โอนเงินไปให้นั้นเป็นใครและมีความเชื่อมโยงกับขบวนการนี้อย่างไร

สำหรับความสัมพันธ์ของทั้งสามคนนี้พบว่ามีความสัมพันธ์โดยที่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันผ่านการเที่ยวสถานบันเทิง โดยนายกิตติศักดิ์ หรือนายเป้ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีอาชีพเปิดโมเดลลิ่ง รับจัดหานายแบบหรือนางแบบ นอกจากนี้นายเป้เป็นเจ้าของบริษัท มัทธุจัด จำกัด และบริษัท เคพีพี โปรดั๊กชั่น จำกัดอีกด้วย ขณะที่นายจริวัฒน์และนายพูลศักดิ์ เบื้องต้นพบว่าไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แต่นายพูลศักดิ์นั้นมีนิสัยเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชอบเที่ยวเตร่ ใช้เงินอู้ฟู่ ทำให้มีหญิงสาวมากหน้าหลายตามาติดพัน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพูลศักดิ์ได้ไปซื้อบ้านหลังหนึ่งในราคา 24 ล้าน ย่านแจ้งวัฒนะ นอกจากนี้นายพูลศักดิ์ยังมีคอนโดหรู ชื่อว่าคอนโดเดอะคีย์ย่านแจ้งวัฒนะเช่นกัน ขณะที่ในส่วนของนายกิตติศักดิ์นั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีบ้านราคา 35 ล้าน ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งนายกิตติศักดิ์ได้ซื้อไว้ในห้วงเวลาก่อนเกิดเหตุด้วย เบื้องต้นพบว่านายกิตติศักดิ์เดินทางออกจากประเทศไทยไปฮ่องกง เมื่อคืนวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น. พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวน กก.1.บก.ป. เปิดเผยว่าหลักจากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ และนายสมบัติ โสประดิษฐ์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม สนับสนุนเจ้าหน้าทื่รัฐให้มีการทุจริต และข้อหาฟอกเงิน ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2543
กำลังโหลดความคิดเห็น