แพทยสภาตีความชัด “หมอ” ทำตัวเป็นนายหน้า ตรวจคนไข้ก่อนส่งตัวไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ต่างประเทศ ถือว่าทำผิด ฐานร่วมกระบวนการ จ่อส่งอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณาเอาโทษแล้ว
นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแพทย์ที่ให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ตรวจความดัน ผู้ป่วยก่อนส่งตัวไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งการฉีดเฟรชเซลล์ถือว่าผิดกฎหมาย ว่า คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ลงความเห็นแล้วว่า การกระทำทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการให้บริการฉีดเฟรชเซลล์ ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์ที่ไม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในประเทศไทย เพราะฉะนั้น แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ต่างประเทศจะถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภาดำเนินการเอาผิดแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าอนุกรรมการดำเนินการถึงไหนแล้ว
ด้าน นพ.เกรียง อัศวรุ่งนิรันดร์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรม ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่ตำกว่า 6 เดือน เพราะต้องหาข้อมูลหลักฐาน ต้องเชิญผู้ร้องเรียน ผู้ถูกร้องเรียนมาให้ข้อมูล และหารือกับราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าการใช้เซลล์บำบัด หรือเซลล์เธอราปีจะไม่ใช่ศาสตร์การแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยแต่ก็ต้องรอบคอบ ต้องมีข้อมูลรอบด้านการพิจารณาโทษต้องชัดเจน
“ในกระบวนการวินิจฉัยโรค ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง หากมีกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพก็ถือว่ากระบวนการวินิจฉัยโรคนั้นผิดจริยธรรมด้วยเช่นกัน แต่การจะเอาผิดแพทย์จะต้องรอบคอบ ต้องใช้เวลา” นพ.เกีรยง กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแพทย์ที่ให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ตรวจความดัน ผู้ป่วยก่อนส่งตัวไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งการฉีดเฟรชเซลล์ถือว่าผิดกฎหมาย ว่า คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ลงความเห็นแล้วว่า การกระทำทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการให้บริการฉีดเฟรชเซลล์ ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์ที่ไม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในประเทศไทย เพราะฉะนั้น แพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนไปฉีดเฟรชเซลล์ที่ต่างประเทศจะถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภาดำเนินการเอาผิดแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าอนุกรรมการดำเนินการถึงไหนแล้ว
ด้าน นพ.เกรียง อัศวรุ่งนิรันดร์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรม ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่ตำกว่า 6 เดือน เพราะต้องหาข้อมูลหลักฐาน ต้องเชิญผู้ร้องเรียน ผู้ถูกร้องเรียนมาให้ข้อมูล และหารือกับราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าการใช้เซลล์บำบัด หรือเซลล์เธอราปีจะไม่ใช่ศาสตร์การแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยแต่ก็ต้องรอบคอบ ต้องมีข้อมูลรอบด้านการพิจารณาโทษต้องชัดเจน
“ในกระบวนการวินิจฉัยโรค ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง หากมีกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพก็ถือว่ากระบวนการวินิจฉัยโรคนั้นผิดจริยธรรมด้วยเช่นกัน แต่การจะเอาผิดแพทย์จะต้องรอบคอบ ต้องใช้เวลา” นพ.เกีรยง กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
