สาธิต มศว (ฝ่ายประถม) น้อมนำแบบอย่างสมเด็จย่า ทรงสอน “ในหลวง” สัมผัสของจริง มาสร้างเป็น “วิชาฉันทะศึกษา” เผยเด็กชอบเข้าเรียนห้องฉันทะมากที่สุด เพราะมีอิสระทั้งได้ใช้จินตนาการเต็มเปี่ยม อาทิ ป.1 ทำหนังสั้น สร้างเกมคอมพิวเตอร์
นางพิไลพร หวังทรัพย์ทวี อาจารย์ผู้สอนวิชาฉันทะศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ฝ่ายประถม) เปิดเผยว่า แนวคิดวิชาฉันทะศึกษานั้น เกิดมาจากการที่อยากให้เด็กได้เรียนตามความชอบ รักในสิ่งแล้วเรียนอย่างมีความสุขใช้ โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ฝ่ายประถมได้แนวคิดที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงเลี้ยงดูพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ที่ทรงให้พระราชธิดา พระราชโอรส โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงได้เล่นดิน เล่นน้ำ เล่นทราย เป็นการเล่นที่ที่ได้สัมผัสของจริง ลงมือทำจริง จะเกิดประโยชน์กับชีวิตจริง เราจะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักประดิษฐ์ คิดค้น และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ประเทศไทยนั้น ได้มาจากการที่พระองค์ท่านทรงเล่นได้เล่นดิน เล่นน้ำ เล่นทรายในวัยเยาว์ สิ่งเหล่านี้ช่วยหล่อหลอมให้พระองค์ท่านมีแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ มากมาย
สำหรับวิชาฉันทะศึกษา หรือกิจกรรมฉันทะของ ร.ร.สาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) เป็นการเรียนด้วยระบบเปิด ถ้าอยากให้เด็กไทยรักเรียน ต้องเริ่มจากการได้เรียนในสิ่งที่รัก นั่นคือ ฉันทะ ซึ่งมาจากหนทางแห่งความสำเร็จ ซึ่งก็คือหนึ่งใน อิทธิบาท 4 นั่นคือ ฉันทะ ต้องรักในสิ่งที่ทำ การเริ่มต้นจากสิ่งที่เด็กรักและสนใจและลงมือทำ ด้วยการจัดกิจกรรมให้เห็นของจริง ลงมือทำจริง เป็นสิ่งจำเป็นมาก เด็กได้เล่นได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ สมองส่วนที่เปิดรับการเรียนรู้จะเปิดรับอย่างมีความสุข เมื่อเกิดความสุขขณะเล่นสมองจะเปิดรับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ เมื่อไหร่ที่เขาเล่นอยู่เกิดปัญหา เขาจะหันมาถามครูหรือผู้รู้ที่เราได้จัดให้ในชั่วโมงนั้นๆ และนี่คือนาทีทองของอาจารย์ที่จะอธิบายสิ่งที่เขาติดขัด ทั้งนี้ ครูจะสอนเสริมในช่วงนาทีนั้น เขาจะเปิดรับด้วยความสนุก ห้องฉันทะของ ร.ร.สาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) มีผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กๆ และนี่คือหัวใจสำคัญที่ว่าทำให้เด็กไทยมีพัฒนาการที่เหมาะสมทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กๆ ที่นี่ สัมผัสกับน้ำจริงๆ เรียนรู้การต่อท่อประปา การผันน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เด็กๆ ที่มีแววด้านช่างหรือวิศวกรเขาจะชอบกิจกรรมเหล่านี้มาก ซึ่งทางโรงเรียนจะส่งเสริมโดยเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้รู้ที่มีความรู้ด้านช่างหรือวิศวกรรมศาสตร์ หรือความรู้ด้านต่างๆ ที่นักเรียนสนใจเข้ามาสอนและแบ่งปันประสบการณ์ให้นักเรียน
ทั้งนี้ กิจกรรมทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่ชั้น ป.1 - ป.6 จัดเพื่อให้เด็กได้รู้ว่าตัวเองมีทักษะอะไร ถือเป็นทักษะชีวิต เด็กทุกชั้นจะได้เรียนในกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ เริ่มจาก 1. กิจกรรม ร้านค้า เริ่มตั้งแต่การจัดหน้าร้าน ทำบัญชี ขายของ เก็บเงิน และต้องคิดเมนูซื้อของและจ่ายตลาดเพื่อนำสิ่งที่ไปซื้อในตลาด มาขายที่หน้าร้าน 2. แต่งเรื่อง การเขียนเรื่องแต่งบทประพันธ์ หรือเป็นนักแสดง เป็นช่างภาพ เป็นผู้กำกับ เขียนบท ให้เด็กได้แสดงบทบาทสมมติให้เหมาะสมกับบทบาท 3. งานไม้ เช่น การใช้ค้อนให้ถูกวิธี การจับค้อนตอกตาปู สอนการทำกระเป๋า ทำไม้ไอติมและสอนเขียนแบบเบื้องต้น เขาจะมีความรู้เรื่องสถาปัตยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ เราจะได้เด็กที่รู้ตัวว่าเขาอยากเป็นช่าง มีความค้ดด้านการออกแบบ 4. กิจกรรมสร้างสรรค์ หาของใช้ที่อยู่รอบตัวมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช่ เด็กต้องคิดจากอุปกรณ์ข้าวของที่เหลือใช้มาทำประโยชน์และต้องนำไปขายได้ด้ว เด็กเล็กๆ จะเกิดทักษะการตัดกระดาษ การติดข่าว 5. งานเย็บปักถักร้อย เด็กผู้หญิงจะชอบงานนี้มาก มีการทอ ถัก ที่โรงเรียนมีเครื่องทอผ้าของไทยและของญี่ปุ่น สอนถัก ทุกชนิด เป็นการวัดทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือ ดูว่าเด็กๆ สามารถใช้กล้ามเนื้อมือประดิษฐ์ สิ่งยากๆ เด็กจะมุ่งมั่นอยากทำของประดิษฐ์ให้เสร็จเพื่อนำกลับไปให้พ่อแม่ได้ชื่นชม เห็นความกระตือตือร้นของพวกเขา 6. การออกกำลังกาย เน้นทักษะการทรงตัว ถ้าเด็กๆ อยากเล่นกีฬาครูก็จะส่งเสริม ตอนนี้เน้นรับบี้ ซึ่งเป็นรับบี้ทัชแบบเด็กๆ ไม่ต้องชนให้เจ็บตัว ฝึกความคล่องตัว ความว่องไว เป็นกิจกรรมอีกฉันทะที่เด็กผู้ชายชอบ
7. การสร้างหนังสั้น หรือ สตอปโมชัน เริ่มสร้างหนังสั้นตั้งแต่ ป.1 - 3 โดยการปั้นตัวละคร ปั้นฉาก และเขียนสตอรีบอร์ดแบบง่าย เด็กส่วนใหญ่จะเน้นจินตนาการของตัวเอง อย่างอวกาศ 8. ตัวต่อในรูปตัวต่อพลาสติก ต่อเป็นโมเดลต่างๆ เด็กจะสร้างสรรค์ตามแต่จินตนาการของตัวเอง จนบริษัทบอกว่าจะเอาสิ่งที่เด็กๆ จินตนาการนำไปต่อยอดต่อไป 9. อาหาร มุมนี้เด็กๆ ชอบมาก ชอบทำชอบกิน แต่เราต้องการเน้นให้เด็กๆ รู้จักเก็บ เช็ด ล้าง และต้องการให้เด็กทำอาหารให้ได้ เด็กๆ เรียนรู้เรื่องการชั่ง ตวง วัด และวิทยาศาสตร์การอาหาร เมื่อทำเสร็จก็นำมาจำหน่ายยังร้านเบเกอรี่ของโรงเรียน เด็กๆ ช่วยกันขาย 10. มุมคอมพิวเตอร์ เด็กชอบมาก ส่วนใหญ่คิดว่าจะได้เล่นเกม แต่เราชี้ชวนให้เด็กๆ สร้างเกมส์ขึ้นมาเอง เริ่มสอนให้เขารู้จักที่จะสร้างเกม และ 11. คาราโอเกะ ใครที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง นักแสดง ต้องเข้าสู่มุมนี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นางพิไลพร หวังทรัพย์ทวี อาจารย์ผู้สอนวิชาฉันทะศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ฝ่ายประถม) เปิดเผยว่า แนวคิดวิชาฉันทะศึกษานั้น เกิดมาจากการที่อยากให้เด็กได้เรียนตามความชอบ รักในสิ่งแล้วเรียนอย่างมีความสุขใช้ โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ฝ่ายประถมได้แนวคิดที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงเลี้ยงดูพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ที่ทรงให้พระราชธิดา พระราชโอรส โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงได้เล่นดิน เล่นน้ำ เล่นทราย เป็นการเล่นที่ที่ได้สัมผัสของจริง ลงมือทำจริง จะเกิดประโยชน์กับชีวิตจริง เราจะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักประดิษฐ์ คิดค้น และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ประเทศไทยนั้น ได้มาจากการที่พระองค์ท่านทรงเล่นได้เล่นดิน เล่นน้ำ เล่นทรายในวัยเยาว์ สิ่งเหล่านี้ช่วยหล่อหลอมให้พระองค์ท่านมีแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ มากมาย
สำหรับวิชาฉันทะศึกษา หรือกิจกรรมฉันทะของ ร.ร.สาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) เป็นการเรียนด้วยระบบเปิด ถ้าอยากให้เด็กไทยรักเรียน ต้องเริ่มจากการได้เรียนในสิ่งที่รัก นั่นคือ ฉันทะ ซึ่งมาจากหนทางแห่งความสำเร็จ ซึ่งก็คือหนึ่งใน อิทธิบาท 4 นั่นคือ ฉันทะ ต้องรักในสิ่งที่ทำ การเริ่มต้นจากสิ่งที่เด็กรักและสนใจและลงมือทำ ด้วยการจัดกิจกรรมให้เห็นของจริง ลงมือทำจริง เป็นสิ่งจำเป็นมาก เด็กได้เล่นได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ สมองส่วนที่เปิดรับการเรียนรู้จะเปิดรับอย่างมีความสุข เมื่อเกิดความสุขขณะเล่นสมองจะเปิดรับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ เมื่อไหร่ที่เขาเล่นอยู่เกิดปัญหา เขาจะหันมาถามครูหรือผู้รู้ที่เราได้จัดให้ในชั่วโมงนั้นๆ และนี่คือนาทีทองของอาจารย์ที่จะอธิบายสิ่งที่เขาติดขัด ทั้งนี้ ครูจะสอนเสริมในช่วงนาทีนั้น เขาจะเปิดรับด้วยความสนุก ห้องฉันทะของ ร.ร.สาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) มีผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กๆ และนี่คือหัวใจสำคัญที่ว่าทำให้เด็กไทยมีพัฒนาการที่เหมาะสมทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กๆ ที่นี่ สัมผัสกับน้ำจริงๆ เรียนรู้การต่อท่อประปา การผันน้ำจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เด็กๆ ที่มีแววด้านช่างหรือวิศวกรเขาจะชอบกิจกรรมเหล่านี้มาก ซึ่งทางโรงเรียนจะส่งเสริมโดยเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้รู้ที่มีความรู้ด้านช่างหรือวิศวกรรมศาสตร์ หรือความรู้ด้านต่างๆ ที่นักเรียนสนใจเข้ามาสอนและแบ่งปันประสบการณ์ให้นักเรียน
ทั้งนี้ กิจกรรมทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่ชั้น ป.1 - ป.6 จัดเพื่อให้เด็กได้รู้ว่าตัวเองมีทักษะอะไร ถือเป็นทักษะชีวิต เด็กทุกชั้นจะได้เรียนในกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ เริ่มจาก 1. กิจกรรม ร้านค้า เริ่มตั้งแต่การจัดหน้าร้าน ทำบัญชี ขายของ เก็บเงิน และต้องคิดเมนูซื้อของและจ่ายตลาดเพื่อนำสิ่งที่ไปซื้อในตลาด มาขายที่หน้าร้าน 2. แต่งเรื่อง การเขียนเรื่องแต่งบทประพันธ์ หรือเป็นนักแสดง เป็นช่างภาพ เป็นผู้กำกับ เขียนบท ให้เด็กได้แสดงบทบาทสมมติให้เหมาะสมกับบทบาท 3. งานไม้ เช่น การใช้ค้อนให้ถูกวิธี การจับค้อนตอกตาปู สอนการทำกระเป๋า ทำไม้ไอติมและสอนเขียนแบบเบื้องต้น เขาจะมีความรู้เรื่องสถาปัตยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ เราจะได้เด็กที่รู้ตัวว่าเขาอยากเป็นช่าง มีความค้ดด้านการออกแบบ 4. กิจกรรมสร้างสรรค์ หาของใช้ที่อยู่รอบตัวมาสร้างสรรค์เป็นเครื่องใช่ เด็กต้องคิดจากอุปกรณ์ข้าวของที่เหลือใช้มาทำประโยชน์และต้องนำไปขายได้ด้ว เด็กเล็กๆ จะเกิดทักษะการตัดกระดาษ การติดข่าว 5. งานเย็บปักถักร้อย เด็กผู้หญิงจะชอบงานนี้มาก มีการทอ ถัก ที่โรงเรียนมีเครื่องทอผ้าของไทยและของญี่ปุ่น สอนถัก ทุกชนิด เป็นการวัดทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือ ดูว่าเด็กๆ สามารถใช้กล้ามเนื้อมือประดิษฐ์ สิ่งยากๆ เด็กจะมุ่งมั่นอยากทำของประดิษฐ์ให้เสร็จเพื่อนำกลับไปให้พ่อแม่ได้ชื่นชม เห็นความกระตือตือร้นของพวกเขา 6. การออกกำลังกาย เน้นทักษะการทรงตัว ถ้าเด็กๆ อยากเล่นกีฬาครูก็จะส่งเสริม ตอนนี้เน้นรับบี้ ซึ่งเป็นรับบี้ทัชแบบเด็กๆ ไม่ต้องชนให้เจ็บตัว ฝึกความคล่องตัว ความว่องไว เป็นกิจกรรมอีกฉันทะที่เด็กผู้ชายชอบ
7. การสร้างหนังสั้น หรือ สตอปโมชัน เริ่มสร้างหนังสั้นตั้งแต่ ป.1 - 3 โดยการปั้นตัวละคร ปั้นฉาก และเขียนสตอรีบอร์ดแบบง่าย เด็กส่วนใหญ่จะเน้นจินตนาการของตัวเอง อย่างอวกาศ 8. ตัวต่อในรูปตัวต่อพลาสติก ต่อเป็นโมเดลต่างๆ เด็กจะสร้างสรรค์ตามแต่จินตนาการของตัวเอง จนบริษัทบอกว่าจะเอาสิ่งที่เด็กๆ จินตนาการนำไปต่อยอดต่อไป 9. อาหาร มุมนี้เด็กๆ ชอบมาก ชอบทำชอบกิน แต่เราต้องการเน้นให้เด็กๆ รู้จักเก็บ เช็ด ล้าง และต้องการให้เด็กทำอาหารให้ได้ เด็กๆ เรียนรู้เรื่องการชั่ง ตวง วัด และวิทยาศาสตร์การอาหาร เมื่อทำเสร็จก็นำมาจำหน่ายยังร้านเบเกอรี่ของโรงเรียน เด็กๆ ช่วยกันขาย 10. มุมคอมพิวเตอร์ เด็กชอบมาก ส่วนใหญ่คิดว่าจะได้เล่นเกม แต่เราชี้ชวนให้เด็กๆ สร้างเกมส์ขึ้นมาเอง เริ่มสอนให้เขารู้จักที่จะสร้างเกม และ 11. คาราโอเกะ ใครที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง นักแสดง ต้องเข้าสู่มุมนี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่