จับตา “กาฬโรค” ระบาดในมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา สธ. สั่ง สสจ. เข้มด่านท่าเรือระหว่างประเทศ เฝ้าระวังเรือจากทวีปแอฟริกา หวั่นมีหนูติดมากับเรือ จี้กำจัด เข้มงวดสุขาภิบาล ชี้หมัดหนูเป็นตัวแพร่เชื้อ ระบุไทยปลอดโรคนี้นาน 62 ปี
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) แจ้งข่าวการแพร่ระบาดของ “กาฬโรค” ในเมืองหลวงของประเทศมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา โดย 3 เดือนพบผู้ป่วย 119 ราย เสียชีวิต 40 ราย ว่า โรคกาฬโรค มีหมัดหนูเป็นพาหะแพร่เชื้อ ซึ่งประเทศไทยปลอดโรคนี้มานานถึง 62 ปี และมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคมาอย่างต่อเนื่อง ความเสี่ยงที่โรคจะกลับมาระบาดมีโอกาสต่ำ อย่างไรก็ตาม ได้ให้กรมควบคุมโรค (คร.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยเฉพาะจังหวัดที่มีด่านติดต่อทางเรือระหว่างประเทศ เฝ้าระวังเรือที่มาจากแหล่งระบาด ซึ่งอาจมีหนูมากับเรือได้ โดยให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศตรวจตรา เข้มงวดเรื่องสุขาภิบาล กำจัดหนูบนเรือและที่ด่านท่าเรือระหว่างประเทศตามมาตรฐานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ส่วนประชาชนขอให้ดูแลความสะอาดบ้านเรือน กำจัดขยะในบ้านให้ถูกวิธี และป้องกันหนูไม่ให้ไปทำรังหรือไปหาอาหารในบ้านเรือน ซึ่งจะเป็นวิธีการป้องกันโรคที่ดีที่สุด
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า โรคกาฬโรค (Plague) มีหมัดหนู เป็นตัวแพร่เชื้อ หมัดหนูมักอาศัยอยู่ในสัตว์ฟันแทะป่า เช่นกระรอกดิน กระต่ายป่า และหนู หลังจากคนถูกหมัดที่มีเชื้อกัดประมาณ 1 - 7 วัน จะมีอาการป่วย คือ มีไข้หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน ไม่มีเรี่ยวแรง เจ็บคอ ปวดหัว ต่อมาจะมีต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่บริเวณถูกหมัดกัด ที่พบบ่อยที่สุด คือ ขาหนีบ เชื้ออาจจะแพร่กระจายไปอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย รวมถึงเยื่อหุ้มสมอง ปอดบวม ทำให้เกิดอาการช็อก เลือดไม่แข็งตัว และเสียชีวิตได้ ในอดีตกาฬโรคเป็นโรคร้ายแรง ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันโรคนี้ มียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด หากตรวจพบวินิจฉัยได้เร็ว ขณะนี้พบโรคนี้บางพื้นที่ เช่นประเทศในแอฟริกาได้แก่ แองโกลา เคนยา บอตสวานา มาดากัสการ์ นามิเบีย แอฟริกาใต้ มาลาวี โมซัมบิก แทนซาเนีย ยูกันดา ซิมบับเว ซาอีร์ และ ลิเบีย ส่วนในเอเชียพบในประเทศจีน อินโดนีเซีย มองโกเลีย พม่า อินเดีย และ เวียดนาม
“ปัจจุบัน สธ. ได้ประกาศให้กาฬโรคเป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สามารถปฏิบัติงานเพื่อการควบคุมป้องกันโรค เช่น ตรวจตรายานพาหนะ ผู้เดินทาง สิ่งของ หรือสัตว์ที่มากับพาหนะ รวมทั้งควบคุม การกำจัดสิ่งอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในพาหนะ เช่น การควบคุมหนูบนเรือ ท่าเรือ และในโรงเก็บสินค้าด้วยสิ่งก่อสร้างที่กันหนูได้ และมีมาตรการการตรวจคัดกรอง กักกัน และรักษาคนหรือสัตว์สงสัยว่าป่วยเป็นโรคติดต่ออันตราย เป็นต้น” อธิบดี คร. กล่าวและว่า ในการป้องกันกาฬโรค ขอให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนู ไม่เลี้ยงหรือไม่สัมผัสสัตว์ป่าหรือซากสัตว์กัดแทะต่างๆ ประชาชนที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในป่า หากมีไข้หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน ให้ไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อทั่วไป 02-5906183 หรือ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) แจ้งข่าวการแพร่ระบาดของ “กาฬโรค” ในเมืองหลวงของประเทศมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา โดย 3 เดือนพบผู้ป่วย 119 ราย เสียชีวิต 40 ราย ว่า โรคกาฬโรค มีหมัดหนูเป็นพาหะแพร่เชื้อ ซึ่งประเทศไทยปลอดโรคนี้มานานถึง 62 ปี และมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคมาอย่างต่อเนื่อง ความเสี่ยงที่โรคจะกลับมาระบาดมีโอกาสต่ำ อย่างไรก็ตาม ได้ให้กรมควบคุมโรค (คร.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยเฉพาะจังหวัดที่มีด่านติดต่อทางเรือระหว่างประเทศ เฝ้าระวังเรือที่มาจากแหล่งระบาด ซึ่งอาจมีหนูมากับเรือได้ โดยให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศตรวจตรา เข้มงวดเรื่องสุขาภิบาล กำจัดหนูบนเรือและที่ด่านท่าเรือระหว่างประเทศตามมาตรฐานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ส่วนประชาชนขอให้ดูแลความสะอาดบ้านเรือน กำจัดขยะในบ้านให้ถูกวิธี และป้องกันหนูไม่ให้ไปทำรังหรือไปหาอาหารในบ้านเรือน ซึ่งจะเป็นวิธีการป้องกันโรคที่ดีที่สุด
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า โรคกาฬโรค (Plague) มีหมัดหนู เป็นตัวแพร่เชื้อ หมัดหนูมักอาศัยอยู่ในสัตว์ฟันแทะป่า เช่นกระรอกดิน กระต่ายป่า และหนู หลังจากคนถูกหมัดที่มีเชื้อกัดประมาณ 1 - 7 วัน จะมีอาการป่วย คือ มีไข้หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน ไม่มีเรี่ยวแรง เจ็บคอ ปวดหัว ต่อมาจะมีต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่บริเวณถูกหมัดกัด ที่พบบ่อยที่สุด คือ ขาหนีบ เชื้ออาจจะแพร่กระจายไปอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย รวมถึงเยื่อหุ้มสมอง ปอดบวม ทำให้เกิดอาการช็อก เลือดไม่แข็งตัว และเสียชีวิตได้ ในอดีตกาฬโรคเป็นโรคร้ายแรง ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันโรคนี้ มียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด หากตรวจพบวินิจฉัยได้เร็ว ขณะนี้พบโรคนี้บางพื้นที่ เช่นประเทศในแอฟริกาได้แก่ แองโกลา เคนยา บอตสวานา มาดากัสการ์ นามิเบีย แอฟริกาใต้ มาลาวี โมซัมบิก แทนซาเนีย ยูกันดา ซิมบับเว ซาอีร์ และ ลิเบีย ส่วนในเอเชียพบในประเทศจีน อินโดนีเซีย มองโกเลีย พม่า อินเดีย และ เวียดนาม
“ปัจจุบัน สธ. ได้ประกาศให้กาฬโรคเป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สามารถปฏิบัติงานเพื่อการควบคุมป้องกันโรค เช่น ตรวจตรายานพาหนะ ผู้เดินทาง สิ่งของ หรือสัตว์ที่มากับพาหนะ รวมทั้งควบคุม การกำจัดสิ่งอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในพาหนะ เช่น การควบคุมหนูบนเรือ ท่าเรือ และในโรงเก็บสินค้าด้วยสิ่งก่อสร้างที่กันหนูได้ และมีมาตรการการตรวจคัดกรอง กักกัน และรักษาคนหรือสัตว์สงสัยว่าป่วยเป็นโรคติดต่ออันตราย เป็นต้น” อธิบดี คร. กล่าวและว่า ในการป้องกันกาฬโรค ขอให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนู ไม่เลี้ยงหรือไม่สัมผัสสัตว์ป่าหรือซากสัตว์กัดแทะต่างๆ ประชาชนที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในป่า หากมีไข้หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน ให้ไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อทั่วไป 02-5906183 หรือ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดเครื่อง oncothermia ความหวังใหม่รักษามะเร็งเต้านม-ตับระยะท้าย ใช้คลื่นวิทยุยิงเฉพาะจุดมะเร็งจนเกิดความร้อน เอื้อยาเคมีบำบัดเข้าถึงมะเร็งง่ายขึ้น ผลศึกษาก้แนมะเร็งเต้านมยุบทั้งหมด 22% ผู้ป่วยมะเร็งตับอายุยืนขึ้น