xs
xsm
sm
md
lg

จัดทวิภาคีมาตรฐานเยอรมันสร้างเด็กอาชีวะตอบสนองอุตสาหกรรมน้ำตาลฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาชีวะ - จับมือหอการค้าไทย - หอการค้าเยอรมัน-ไทย และกลุ่มมิตรผล ร่วมจัดการศึกษาทวิภาคี ด้วยมาตรฐานอาชีวศึกษาเยอรมัน เพื่อผลิตแรงงานสายอาชีพด้านอุตสาหกรรมน้ำตาล และชีวพลังงาน สอศ. ตั้งเป้านำร่องในเด็ก ปวส. จำนวน 160 คน ใน 4 สาขาที่เกี่ยวข้องเริ่มปีการศึกษาหน้า ด้านกลุ่มมิตรผล จูงใจจบแล้วมีโอกาสได้งานทำเงินเดือน - สวัสดิการเทียบเท่า ป.ตรี

วันนี้ (17 พ.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือกับหอการค้าไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย และกลุ่มมิตรผล ในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเพื่อผลิตกำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคบริการ โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานในพิธีร่วมด้วย นายรอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนีประจำประเทศไทย

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านอาชีวศึกษาอย่างมาก โดย รมว.ศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายให้เรื่องการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพ การสร้างภาพลักษณ์ และคุณภาพการจัดศึกษาเป็นนโยบายเร่งด่วนทั้งยังส่งเสริมให้ สอศ.ร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในพัฒนาผู้เรียนได้มาตรฐานสากล และมาตรฐานของประเทศเยอรมันซึ่งเป็นต้นแบบสำคัญ โอกาสนี้ สอศ. จึงร่วมกับหอการค้าไทย หอการค้าไทย-เยอรมัน ในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีกับสถานประกอบการที่เป็นสมาชิกหอการค้า และทวิภาคีครั้งแรกกับกลุ่มมิตรผล โดยใช้รูปแบบและมาตรฐานของการอาชีวศึกษาทวิภาคีแบบเยอรมัน โดยมุ่งเน้นผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอุตสาหกรรมน้ำตาลและชีวพลังงาน

ทั้งนี้ ความร่วมมือในกลุ่มมิตรผลนั้น สอศ. ตั้งเป้าภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จะนำร่องส่งนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จาก 6 วิทยาลัยทั้งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีและวิทยาลัยเทคนิค ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี จำนวน 160 คนจาก 4 สาขา คือ สาขาวิชาไฟฟ้า 40 คน สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล 40 คน สาขางวิชาช่างกลเกษตร 40 คน และพืชศาสตร์ 40 คน เข้าไปฝึกประสบการณ์ทำงานจริงในโรงงานของกลุ่มมิตรผล 6 แห่งในจ.สุพรรณบุรี สิงห์บุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เลย และ ชัยภูมิ

ด้าน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแรงงานอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการเกษตรด้านการจัดการฟาร์มไม่ค่อยมีผู้จัดการศึกษาทั้งที่ประเทศไทยมีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ดังนั้น สถานประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกหอการค้าได้หารือกันว่าควรจะร่วมมือกับภาครัฐอย่าง สอศ.ในการผลิตกำลังคน โดยสถานประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้เรียนอาชีวะให้มีสมรรถนะตามที่ต้องการ และมีความก้าวหน้าทางอาชีพ โดยปัจจุบันเรากำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมไว้ 18 กลุ่มดังนั้น จึงใช้ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นทำโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 อาชีวศึกษา มีเป้าหมายที่จะยกระดับสร้างความเข้มแข็งให้กับวิทยาลัยอาชีวศึกษา ผู้เรียน การพัฒนาครู ซึ่งการร่วมมือดังกล่าวนี้นับเป็นการวางแผนการผลิตและพัฒนากำลังคนประเทศในระยะยาว ทั้งเป็นการเตรียมพร้อมในการวางแผนพัฒนาคนเพื่อรองรับการขยายตัวในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ขณะที่ นายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการบุคลากรระดับช่างมือ ช่างเทคนิค ในอุตสาหกรรมน้ำตาลและชีวพลังงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเรามีการปรับรูปแบบการบริหารจัดการไร่อ้อยสมัยใหม่ มีการนำเทคโนโลยีการผลิตมาตรฐานระดับโลกมาใช้ทำให้จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ด้านเกษตรที่มีความเข้าใจอุตสาหกรรมเข้ามาดูแลเครื่องจักร แต่ปัญหาที่พบคือเราขาดแคลนแรงงานสายอาชีพ เพราะเยาวชนไทยนิยมเรียนต่อสายสามัญมากกว่า ดังนั้น กลุ่มมิตรผลจึงได้ร่วมกับ สอศ. หอการค้าไทย-เยอรมัน พัฒนาหลักสูตรทวิภาคีสำหรับสถาบันอาชีวศึกษา โดยนำมาตรฐานการพัฒนานักศึกษาอาชีวะของเยอรมนีมาใช้ โดยเน้นเนื้อหาการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับเส้นทางอาชีพในกลุ่มมิตรผลทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริงในโรงงาน ซึ่งนักศึกษาที่ร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ธุรกิจและอุตสาหกรรมของกลุ่มมิตรผล นอกจากนี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วนักศึกษาจะได้รับวุฒิบัตรสำหรับผู้ผ่านการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ วุฒิบัตรจากกลุ่มมิตรผล และหอการค้าไทย-เยอรมัน รวมทั้งยังมีโอกาสได้รับการบรรจุเข้าทำงานในกลุ่มมิตรผล ซึ่งมีค่าตอบแทน สวัสดิการเทียบได้กับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญาตรีด้วย
 
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลดความคิดเห็น