“หมออรพรรณ์” ซัดมติบอร์ด อภ. เลิกจ้าง “หมอสุวัช” เป็นปาหี่ 8 เครือข่ายรับคำสั่งใครมากำจัด ผอ.อภ. แปลกใจทหารฟังความข้างเดียว แฉซ้ำเอ็นจีโอ 8 เครือข่ายกลุ่มเดียวกับที่ให้ข้อมูลไม่จริงกรณีทุจริตยา ซัดกลับยุคมืด อภ.เจอยาพาราฯปนขดลวด โรงงานวัคซีนสร้างไม่เสร็จทำไมไปอยู่ที่ไหน ไม่ออกมาเรียกร้องเพื่อ ปชช. ชี้ยาขาดที่ร้องเรียนเป็นยาตลาด ไม่เกี่ยวภารกิจ อภ.
พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล รองประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.) กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า นพ.สุวัช จะบริหารไร้ประสิทธิภาพตามที่บอร์ด อภ. ให้เหตุผลเลิกจ้าง เพราะหากประเมินว่าทำงายขาดประสิทธิภาพจริง บอร์ด อภ. ต้องเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย 6 เดือน จึงเชื่อว่ากระบวนการเลิกจ้าง นพ.สุวัช เป็นการทำปาหี่ เห็นได้จากในวันที่บอร์ด อภ. มีมติเลิกจ้างก็มีกลุ่ม 8 เครือข่ายมาถือป้ายร้องเรียน ตามด้วยบอร์ดมีมติเลิกจ้างและตั้งกรรมการสรรหา ผอ. คนใหม่ทันที ที่สำคัญการประเมินผลการทำงานก็ยังไม่แล้วเสร็จ เหตุใดจึงต้องเร่งรีบ
พญ.อรพรรณ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีปัญหายาขาดแคลนจากการบริหารของ นพ.สุวัช นั้น การจะบอกว่ายาขาดจริงต้องเป็นหน่วยบริการ หรือโรงพยาบาลเป็นคนแจ้ง ทำไมจึงกลายเป็นกลุ่มเอ็นจีโอออกมาเคลื่อนไหว อีกทั้งหากพิจารณาตามภารกิจของ อภ. ที่ระบุใน พ.ร.บ. องค์การเภสัชกรรม จะพบว่าภารกิจของ อภ. จริงๆ คือ เรื่องยากำพร้า ยาขาดแคลน แต่ยาที่กลุ่มเอ็นจีโอออกมาบอกว่าขาดนั้นเป็นยาทางการตลาดทั้งสิ้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจของ อภ. เลย ก็ไม่ถือว่า อภ.ทำให้เกิดปัญหายาขาด และจากการตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีสถานการณ์ยาขาดแคลนจริง เป็นเพียงการบริหารจัดการที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
“มีข้อสงสัยต่อ 8 เครือข่ายที่พบว่าเป็นองค์กรเดียวกับที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องโครงการไทยเข้มแข็ง ทุจริตยา ซึ่งบางเรื่องตรวจสอบภายหลังพบว่าไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้าง และทุกครั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวจะมีการเรื่องการเปลี่ยนแปลงอำนาจตลอด กรณีหมอสุวัช สงสัยว่ารับคำสั่งใครมากำจัดหมอสุวัช และไม่เข้าใจว่าทำไมบอร์ด อภ. ชุดนี้ต้องฟัง 8 เครือข่าย ทั้งที่ คสช. เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งยึดหลักความถูกต้อง เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมในเรื่องของวงการสาธารณสุข ทหารไม่ฟังความ 2 ฝ่าย ทำไมต้องเชื่อและฟังความฝ่ายเดียว อีกทั้ง อภ. ในยุคก่อนที่หมอสุวัชจะเข้ามาก็ถือเป็นยุคมืด มีทั้งปัญหายาพาราฯ ปนขดลวด โรงงานวัคซีนไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกำหนด ถามว่า 8 เครือข่ายไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เคยออกมาเรียกร้องเพื่อประโยชน์ของประชาชนเลย” พญ.อรพรรณ์ กล่าว
พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล รองประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.) กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า นพ.สุวัช จะบริหารไร้ประสิทธิภาพตามที่บอร์ด อภ. ให้เหตุผลเลิกจ้าง เพราะหากประเมินว่าทำงายขาดประสิทธิภาพจริง บอร์ด อภ. ต้องเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย 6 เดือน จึงเชื่อว่ากระบวนการเลิกจ้าง นพ.สุวัช เป็นการทำปาหี่ เห็นได้จากในวันที่บอร์ด อภ. มีมติเลิกจ้างก็มีกลุ่ม 8 เครือข่ายมาถือป้ายร้องเรียน ตามด้วยบอร์ดมีมติเลิกจ้างและตั้งกรรมการสรรหา ผอ. คนใหม่ทันที ที่สำคัญการประเมินผลการทำงานก็ยังไม่แล้วเสร็จ เหตุใดจึงต้องเร่งรีบ
พญ.อรพรรณ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีปัญหายาขาดแคลนจากการบริหารของ นพ.สุวัช นั้น การจะบอกว่ายาขาดจริงต้องเป็นหน่วยบริการ หรือโรงพยาบาลเป็นคนแจ้ง ทำไมจึงกลายเป็นกลุ่มเอ็นจีโอออกมาเคลื่อนไหว อีกทั้งหากพิจารณาตามภารกิจของ อภ. ที่ระบุใน พ.ร.บ. องค์การเภสัชกรรม จะพบว่าภารกิจของ อภ. จริงๆ คือ เรื่องยากำพร้า ยาขาดแคลน แต่ยาที่กลุ่มเอ็นจีโอออกมาบอกว่าขาดนั้นเป็นยาทางการตลาดทั้งสิ้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจของ อภ. เลย ก็ไม่ถือว่า อภ.ทำให้เกิดปัญหายาขาด และจากการตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีสถานการณ์ยาขาดแคลนจริง เป็นเพียงการบริหารจัดการที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
“มีข้อสงสัยต่อ 8 เครือข่ายที่พบว่าเป็นองค์กรเดียวกับที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องโครงการไทยเข้มแข็ง ทุจริตยา ซึ่งบางเรื่องตรวจสอบภายหลังพบว่าไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้าง และทุกครั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวจะมีการเรื่องการเปลี่ยนแปลงอำนาจตลอด กรณีหมอสุวัช สงสัยว่ารับคำสั่งใครมากำจัดหมอสุวัช และไม่เข้าใจว่าทำไมบอร์ด อภ. ชุดนี้ต้องฟัง 8 เครือข่าย ทั้งที่ คสช. เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งยึดหลักความถูกต้อง เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมในเรื่องของวงการสาธารณสุข ทหารไม่ฟังความ 2 ฝ่าย ทำไมต้องเชื่อและฟังความฝ่ายเดียว อีกทั้ง อภ. ในยุคก่อนที่หมอสุวัชจะเข้ามาก็ถือเป็นยุคมืด มีทั้งปัญหายาพาราฯ ปนขดลวด โรงงานวัคซีนไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกำหนด ถามว่า 8 เครือข่ายไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เคยออกมาเรียกร้องเพื่อประโยชน์ของประชาชนเลย” พญ.อรพรรณ์ กล่าว