xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจคลินิกอุ้มบุญ กทม.ผิด กม.7 แห่ง เป็นเอเยนซี 3 แห่ง เล็งขยายผลตรวจอีก 173 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบส. สรุปผลตรวจคลินิกอุ้มบุญ กทม. 12 แห่ง พบมีความผิด 7 แห่ง ถูกกฎหมาย 2 แห่ง เป็นเอเยนซี 3 แห่ง ส่งรายชื่อแพทย์ทำผิด 6 ราย ให้แพทยสภาพิจารณา มั่นใจหลักฐานชัดเอาผิดได้ใน 3 เดือน เล็งทยอยตรวจคลินิกเฉพาะทางสูติฯ ทั่วประเทศ เริ่ม กทม. จากที่เหลืออีก 9 แห่ง

วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงผลการตรวจสถานพยาบาลอุ้มบุญ ว่า จากการตรวจสอบสถานพยาบาลใน กทม. จำนวน 12 แห่ง พบว่า มีความผิด 7 แห่ง แบ่งเป็น มาตรา 34 (2) พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 จำนวน 5 แห่ง คือ ไม่ปฏิบัติตามประกาศของแพทยสภา โดยให้หญิงที่ไม่ใช่ญาติตั้งครรภ์แทน และมาตรา 16 อีก 2 แห่ง คือ ไม่ขออนุญาตตั้งสถานพยาบาลถือเป็นคลินิกเถื่อน ขณะที่ 2 แห่งดำเนินการถูกกฎหมาย และอีก 3 แห่งที่เหลือ เป็นเอเยนซีจัดหาการอุ้มบุญ เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สามารถเอาผิดกรณีหลอกลวง โฆษณาชวนเชื่อ สำหรับแพทย์มีความผิด 6 ราย ได้ส่งชื่อให้แพทยสภาพิจารณาจริยธรรมแล้ว ซึ่งเมื่อมีหลักฐานพร้อม ชัดเจน คาดว่าจะสามารถพิจารณาได้เสร็จภายใน 3 เดือน

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า จากนี้ สบส. จะทยอยตรวจสอบสถานพยาบาลเฉพาะทางด้านสูตินรีเวชทั้งหมดต่อไป เนื่องจากการทำอุ้มบุญต้องทำในคลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวชแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกแห่งจะสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ได้ทั้งหมด โดยมีแพทย์ขึ้นทะเบียนสามารถทำได้เพียง 240 คนเท่านั้น ส่วนคลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวชทั่วประเทศมีขึ้นทะเบียนทั้งหมด 173 แห่ง แบ่งเป็น กทม. 18 แห่ง และต่างจังหวัด 155 แห่ง โดยในส่วนของ กทม. ยังเหลืออีก 9 แห่ง คาดว่าจะตรวจสอบเสร็จใน ก.ย. ส่วนภูมิภาคจะประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อตรวจสอบต่อไป

“ที่ผ่านมา สบส. มีการตรวจสอบมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือเพิ่งเคยตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยพบการกระทำผิด ส่วน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. ... สบส. ได้ร่วมกับแพทยสภา และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย พิจารณาและมีความเห็นเสนอขอปรับปรุงเพิ่มเติม ในส่วนของหญิงที่รับตั้งครรภ์แทน ให้ยึดตามหลักเกณฑ์เดิมของแพทยสภา คือ ต้องเป็นเครือญาติเพื่อขจัดเงื่อนไขการตั้งครรภ์แทนเชิงพาณิชย์ ส่วนจะมีข้อยกเว้นเป็นรายๆ ไปนั้น ให้เป็นการพิจารณาของแพทยสภา และราชวิทยาลัยฯ” อธิบดี สบส. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการนำเด็กออกนอกประเทศโดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการขอเป็นผู้ปกครองเด็ก โดยให้หญิงรับตั้งครรภ์รับว่าเป็นชู้ นั้น น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า กรณีนี้พิสูจน์ยากเพราะไม่มีการพิสูจน์ว่าเด็กเกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์หรือไม่ ถือเป็นช่องว่างทางกฎหมายและเป็นเรื่องใหม่ จะต้องมีการช่วยกันเสนอความเห็นและหาทางป้องกันต่อไป ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมาย คสช. ได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา และเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกฝ่ายเสนอความเห็นในการปรับปรุง และสบส.จะนำความเห็นนี้เสนอด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลินิกที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 แบ่งเป็นผิดมาตรา 34 (2) ไม่ดำเนินการตามประกาศของแพทยสภา 5 แห่ง คือ 1. ออล ไอ.วี.เอฟ.คลินิกแห่งนี้ทำผิดหลายครั้ง ซึ่งเดิมทีตอนไปตรวจจะมีการปิดสถานพยาบาลอยู่แล้ว แต่เจ้าของคลินิกได้ปิดหนีไปก่อน จึงถือว่าปิดถาวร 2. เอส.เอ.อาร์.ที 3. นิวไลฟ์ ไอ.วี.เอฟ 4. บางกอก ไอ.วี.เอฟ. และ 5. เซฟเฟอทิลิตี และมีความผิดเป็นคลินิกเถื่อน 2 แห่ง คือ คลินิกเถื่อนไม่มีชื่อ แต่เป็นส่วนหนึ่งของ ออล ไอ.วี.เอฟ. ตั้งอยู่บริเวณชั้นที่ 15 และนิวไลฟ์

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ด้านจริยธรรมและสอบสวนกรณีอุ้มบุญ ได้เรียกแพทย์ทั้ง 2 รายกรณีทำอุ้มบุญน้องแกรมมี่ เข้ามาสัมภาษณ์และชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งแพทย์ทั้ง 2 รายต่างก็รับทราบ แต่ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ ส่วนแพทย์ที่ทำการอุ้มบุญเคสชาวญี่ปุ่นมีการเขียนคำชี้แจงเข้ามาแล้ว ทั้งนี้ การพิจารณาความผิด คาดว่าจะรู้ผลเร็วๆ นี้ เนื่องจากทางแพทยสภามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาโดยเฉพาะ

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น