สธ. ร่วมการท่าฯ ออกมาตรการคุมอีโบลาเพิ่ม ตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน วัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่มาจากประเทศระบาด พร้อมกรอกแบบฟอร์มสุขภาพ ที่ด่านควบคุมโรคเพื่อคัดกรองตามระบบ หากพบมีไข้พร้อมส่งเข้า รพ. ทันที ด้านการท่าฯ เผยเตรียมตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนอีก 2 เครื่อง พร้อมเจลล้างมืออีก 80 จุด
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผอ.สำนักโรคอุบัติใหม่ นพ.เจรียงโรจน์ กฤษณา ผอ.ฝ่ายการแพทย์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน เดินทางมาตรวจเยี่ยมระบบเฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา บริเวณจุดคัดกรองโรค อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ อาคารเทียบเครื่องบินอี ด่านควบคุมโรค และบริเวณจุดผู้โดยสารผ่ายทางออกขึ้นเครื่อง สำหรับผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องโดยไม่เข้าประเทศ
ทั้งนี้ นพ.ณรงค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนตรวจเยี่ยม ว่า จากการหารือกับท่าอากาศยานฯ และสายการบินต่างๆ เห็นร่วมว่าจะมีการเพิ่มมาตรการควบคุมโรคอีโบลา โดยขณะนี้มีการตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือเครื่องเทอร์โมสแกน บริเวณผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ที่อาคารเทียบเครื่องบินอี แล้ว 1 เครื่อง ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งหมดที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด คือ กินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และ เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย หากพบว่ามีไข้สูงก็จะเข้าสู่มาตรการสอบสวนโรคและพาเข้าโรงพยาบาลตามระบบของ สธ. ทั้งนี้ เตรียมที่จะติดตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่องที่จุดดังกล่าว และอีก 1 เครื่องที่บริเวณจุดเปลี่ยนเครื่องด้วย รวมทั้งหมดเป็น 3 เครื่อง
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะให้ผู้โดยสารทั้งหมดกรอกแบบฟอร์มกรอกประวัติสุขภาพผู้เดินทาง หรือใบ ต.8 เพื่อเป็นข้อมูล บริเวณด่านควบคุมโรค และเข้าสู่ระบบคัดกรองตามมาตรการปกติ ที่จะให้มีการกรอกข้อมูลสำหรับติดตามตัว และวัดไข้เป็นรายบุคคล หากมีอาการป่วยต้องสงสัยจะมีรถพยาบาลเฉพาะเพื่อรับตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลตามระบบ โดยจะเพิ่มสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก สำหรับผู้ต้องสงสัยป่วยที่เป็นเด็กด้วย ซึ่งจะช่วยให้การป้อองกันควบคุมโรคมีความเข้มแข็งขึ้น พร้อมกันนั้น ได้ทยอยติดตั้งเจลล้างมือภายในอาคารให้ครบ 80 จุดด้วย
นพ.เจรียงโรจน์ กล่าวว่า การตั้งจุดเทอร์โมสแกนบริเวณอาคารโซนตะวันออก จะเป็นจุดที่เที่ยวบินจากโซนแอฟริกาเดินทางเข้ามา คือ เที่ยวบินที่มาจากเคนยา และเอธิโอเปีย เพราะไม่มีไฟลต์บินตรงจากประเทศที่มีการระบาด หากพบว่าผู้เดินผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนมีไข้ จะมีกระบวนการส่งต่อ โดยแยกผู้ต้องสงสัยให้ออกจากอาคารทางพิเศษ และประสานกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้นำรถพยาบาลที่มีเจ้าหน้าสวมชุดป้องกันโรคเพื่อช่วยส่งตัวให้สถาบันบำราศนราดูรต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
