xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญณรงค์” ไม่หวั่นถูกเสนอยุบ สมศ.ลั่นพร้อมแจง คสช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผอ.สมศ. ชี้คนต่อต้านประเมิน เพราะไม่พร้อมรับประเมิน ยันทำงานตามเจตนารมณ์ที่กฎหมายกำหนด ยันเกณฑ์ประเมินรอบ 4 เปิดรับฟังความเห็นต่อเนื่อง ยันการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นเรื่องจำเป็น ไม่หวั่นถูกเสนอให้ยุบ ลั่นพร้อมชี้แจงกับ คสช.

วันนี้ (18 ก.ค.) ที่อาคารพญาไทพลาซ่า สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) (องค์การมหาชน) โดยมี ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสมศ. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. ว่า

จากการหารือร่วมกันระหว่าง ศ.(พิเศษ) ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร สมศ. และตัวแทนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งเสนอให้มีการยุบหรือปรับปรุง สมศ. นั้นได้ข้อสรุปว่า สมศ. ดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ทำหน้าที่ประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบคุณภาพในการจัดการศึกษาซึ่งปัจจุบันมีการกระจายอำนาจไปอยู่ที่สภามหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยสามารถเปิดสาขาวิชา/ภาควิชา และจัดการศึกษานอกที่ตั้งได้ สมศ. จึงมีบทบาทสะท้อนความจริง สะท้อนผลการศึกษา เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคว่าสถานศึกษาจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ มีอาจารย์ที่มีคุณภาพจริงหรือไม่

โดยภาพรวมทั้งประเทศพบว่า มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ มี 48,699 คน คิดเป็น 66.73% เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ 10,082 คน คิดเป็น 20.72% เป็นรองศาสตราจารย์ 5,414 คน คิดเป็น 11.12% และเป็นศาสตราจารย์ 708 คน คิดเป็น 1.45% สะท้อนว่าการที่เรามีอาจารย์มีตำแหน่งทางวิชาการน้อย แสดงว่าอาจารย์ทำงานวิจัยน้อย ทำให้การตีพิมพ์ก็น้อยไปด้วยกระทบต่อการจัดอันดับ world ranking เราก็ต่ำไปด้วย ตอนนี้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก 500 อันดับ มีเพียงมหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่ติดอันดับ และในอาเซียนมีเพียง 3 มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ เพราะฉะนั้น สมศ. มองว่าการตรวจสอบคุณภาพการศึกษามีความจำเป็น หากไม่มี สมศ. จะให้หน่วยงานใดมาตรวจสอบแทน ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีการปรับปรุงทบทวนบทบาท การทำงานของ สมศ. นั้น สมศ. ก็พร้อมปรับปรุง แต่ทุกหน่วยงานก็ต้องปรับปรุงตัวเองด้วย

มหาวิทยาลัยที่ออกมาต่อต้านการประเมิน แสดงว่าเป็นกลุ่มที่ไม่พร้อมรับการประเมิน รู้สึกเป็นภาระ ถ้ามหาวิทยาลัยดำเนินงานเก็บสะสมข้อมูลดีอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งสถาบันต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบของคุณภาพของบัณฑิต โดยหลักสูตรต่างๆ ต้องผ่านการรับรอง ไม่ใช่ธุรกิจการศึกษา ไม่เห็นแก่ประโยชน์ ส่วนการพัฒนาเกณฑ์รอบ 4 สมศ. พัฒนาเกณฑ์มา 2 ปี และเปิดรับฟังความคิดเห็นมาโดยตลอด และขณะนี้ยังมีเวลาที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จะนำเสนอข้อคิดเห็นเพื่อการปรับปรุงเกณฑ์ และ สมศ. พร้อมจะเชิญมหาวิทยาลัยทุกกลุ่มมาหารือเพื่อปรับปรุงแต่ต้องก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 แต่ก็ต้องเสนอด้วยเหตุผล เพราะหากเกณฑ์ที่ออกมาเป็นเกณฑ์ที่อ่อนมหาวิทยาลัยทุกแห่งผ่านหมด ก็จะไม่มีคุณภาพ หรือเกณฑ์ที่ออกมาเข้มเกินไปมหาวิทยาลัยตกหมด ก็จะไม่อำนาจจำแนกมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ ออกจากมหาวิทยาลัยที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้น เครื่องมือในการประเมินจะต้องเป็นเครื่องมือที่มีความพอดี” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ หากมีผู้เสนอเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยุบ สมศ. ตนยินดีและพร้อมที่จะไปชี้แจงต่อ คสช.
 

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลดความคิดเห็น