xs
xsm
sm
md
lg

ทปอ.ยันจุดยืนแยกตัวเป็นกระทรวงอุดมศึกษาฯ จ่อเสนอ คสช.ปฏิรูปการศึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทปอ. เตรียมนัดประชุมวาระพิเศษ จ่อหารือเสนอประเด็นพัฒนาการศึกษาต่อ คสช. ยันจุดยืนแยกตัวเป็นกระทรวงอุดมศึกษาและวิจัย และผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. บริหารงานบุคคล และ ร่าง พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษา


ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ รักษาการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย วาระพิเศษ วันที่ 4 มิถุนายนนี้ ที่ประชุมจะหารือเรื่องที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายการปฏิรูปประเทศทุกด้าน ซึ่งในส่วนของการปฏิรูปการศึกษานั้น ทปอ. จะมีข้อเสนอด้านการศึกษา ได้แก่ นโยบายการผลักดันมหาวิทยาลัยให้เป็นอิสระ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีอิสระในการบริหารจัดการ ซึ่งขณะนี้มีร่างกฎหมายที่ยังค้างอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาลเดิมหลายฉบับ รวมถึงร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.... ด้วย นโยบายการส่งเสริมงานวิจัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยแข่งขันกับนานาชาติได้, ทิศทางการผลักดันมหาวิทยาลัยสู่อาเซียน และนโยบายการแยกกระทรวงอุดมศึกษาและวิจัย เนื่องจากการปรับปรุงกระทรวง ทบวง ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 12 ปีแล้ว เห็นได้ชัดว่า ทำให้มหาวิทยาลัยตกต่ำลง เนื่องจากรัฐมนตรีที่เข้ามาดูแลกระทรวงศึกษาธิการ จะเน้นดูแลการศึกษาขั้นพื้นฐานมากกว่าอุดมศึกษา ขอยืนยันว่าการขอแยกกระทรวงอุดมศึกษาและวิจัย ไม่ใช่เรื่องใหม่ การเสนอต่อ คสช. ช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องการฉวยโอกาส แต่เป็นปัญหาที่ ทปอ. หารือและตั้งคณะทำงานขึ้นศึกษามาตลอด เพราะมีปัญหาจริงๆ

อธิการบดี มธ. กล่าวต่อว่า นอกจาก ร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยในกำกับ แล้ว อุดมศึกษายังมีกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องที่ต้องการให้ คสช. ผลักดัน อีก 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารงานบุคคลในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ....ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา หรือ กพอ. แล้ว และ ร่าง พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.... ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ กกอ. แล้ว ทั้งนี้ ร่างกฎหมายต่างๆ คสช. สามารถอนุมัติให้มีผลบังคับใช้ได้ทันทีแต่อาจทำให้ชาวอุดมศึกษาบางส่วนไม่ค่อนสบายใจ ส่วนบทบาทของมหาวิทยาลัยต่อการผลักดันงานปฏิรูปอื่นๆของ คสช. นั้น ศ.ดร.สมคิด กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านต่างๆ ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ คสช. ได้ หาก คสช. ร้องขอมา ซึ่งตนคิดว่าเรามีความพร้อมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ

“การปฏิรูปการเมืองนั้น ควรมีการนำผลการศึกษาที่คณะบุคคลต่างๆเคยศึกษาไว้มาดำเนินการต่อ อาทิ ผลการศึกษาของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ที่มี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน, ผลการศึกษาของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.ของ นายคณิต ณ นคร และ ผลการศึกษาของสมัชชาปฏิรูปประเทศ ของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็นต้น” ศ.ดร.สมคิด กล่าว

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลดความคิดเห็น