สธ. เตรียมเสนอนโยบายบริหารเขตสุขภาพรูปแบบใหม่ต่อ คสช. วันที่ 31 พ.ค. นี้ ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ จ่อคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 ที่มีอยู่ 48 คน เป็นซีอีโอ 12 คน ประจำแต่ละเขตบริการ เผยจะนำไปสู่โครงสร้างใหม่ระดับนิติบุคคล และยกเป็นองค์การมหาชนใน 3-5 ปี
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา จะเดินทางมายัง สธ. วันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้นโยบายกับผู้บริหาร สธ. ซึ่งสำนักงานปลัด สธ. เตรียมเสนอแนวทางการดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ.2558-2560) เกี่ยวกับการบริหารเขตบริการสุขภาพรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการแก่ประชาชน ทั้งนี้ เขตบริการสุขภาพมี 12 เขต เป็นการจับจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกันมาอยู่ในเขตบริการสุขภาพเดียวกัน เพื่อจัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยมีประธานเป็นผู้บริหารระดับซีอีโอคอยดูแล ซึ่งเดิมทีวางผู้ตรวจราชการ สธ. เป็นผู้บริหารเขตสุขภาพ แต่รูปแบบใหม่จะให้บุคคลที่พร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เป็นผู้บริหาร
“รูปแบบใหม่นี้จะเกิดการกระจายอำนาจสู่พื้นที่อย่างแท้จริง เพราะบุคคลที่พร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่นั้นๆ จะรับรู้ปัญหาและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เบื้องต้นได้เสนอผู้ทรงคุณวุฒิใน สธ. ระดับ 10 เป็นซีอีโอ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 48 คน โดยจะต้องคัดเลือกให้เหลือ 12 คนประจำแต่ละเขตพื้นที่ โดยการบริหารดังกล่าวจะนำไปสู่การบริหารโครงสร้างใหม่ในระดับนิติบุคคลอีก 3-5 ปี ซึ่งอาจยกระดับเป็นองค์การมหาชน” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า การบริหารรูปแบบนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนคือ ประชาชนไม่ต้องรอคิวรักษานาน โดยเฉพาะการผ่าตัดโรคต่างๆ เพราะมีการจัดสรรทรัพยากรบุคคลและเครื่องมือแพทย์ร่วมกัน เช่น รพ.หาดใหญ่มีหมอผ่าตัด 100 คนมีห้องผ่าตัด 16 ห้อง หมอผ่าตัดกลุ่มหนึ่งซึ่งว่างจากการผ่าตัด ก็ให้โยกหมอกลุ่มนี้ไปทำการผ่าตัดอีกโรงพยาบาล อย่าง รพ.สงขลา ซึ่งมีหมอน้อย ห้องผ่าตัดไม่ได้ใช้ เป็นต้น ส่วนผู้ป่วยนอกที่ต้องมารอคิว จนแออัดก็จะกระจายให้รักษาใกล้บ้าน คือ โรงพยาบาลชุมชน ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาโรคทั่วไปได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา จะเดินทางมายัง สธ. วันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้นโยบายกับผู้บริหาร สธ. ซึ่งสำนักงานปลัด สธ. เตรียมเสนอแนวทางการดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ.2558-2560) เกี่ยวกับการบริหารเขตบริการสุขภาพรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการแก่ประชาชน ทั้งนี้ เขตบริการสุขภาพมี 12 เขต เป็นการจับจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกันมาอยู่ในเขตบริการสุขภาพเดียวกัน เพื่อจัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยมีประธานเป็นผู้บริหารระดับซีอีโอคอยดูแล ซึ่งเดิมทีวางผู้ตรวจราชการ สธ. เป็นผู้บริหารเขตสุขภาพ แต่รูปแบบใหม่จะให้บุคคลที่พร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เป็นผู้บริหาร
“รูปแบบใหม่นี้จะเกิดการกระจายอำนาจสู่พื้นที่อย่างแท้จริง เพราะบุคคลที่พร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่นั้นๆ จะรับรู้ปัญหาและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เบื้องต้นได้เสนอผู้ทรงคุณวุฒิใน สธ. ระดับ 10 เป็นซีอีโอ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 48 คน โดยจะต้องคัดเลือกให้เหลือ 12 คนประจำแต่ละเขตพื้นที่ โดยการบริหารดังกล่าวจะนำไปสู่การบริหารโครงสร้างใหม่ในระดับนิติบุคคลอีก 3-5 ปี ซึ่งอาจยกระดับเป็นองค์การมหาชน” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า การบริหารรูปแบบนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนคือ ประชาชนไม่ต้องรอคิวรักษานาน โดยเฉพาะการผ่าตัดโรคต่างๆ เพราะมีการจัดสรรทรัพยากรบุคคลและเครื่องมือแพทย์ร่วมกัน เช่น รพ.หาดใหญ่มีหมอผ่าตัด 100 คนมีห้องผ่าตัด 16 ห้อง หมอผ่าตัดกลุ่มหนึ่งซึ่งว่างจากการผ่าตัด ก็ให้โยกหมอกลุ่มนี้ไปทำการผ่าตัดอีกโรงพยาบาล อย่าง รพ.สงขลา ซึ่งมีหมอน้อย ห้องผ่าตัดไม่ได้ใช้ เป็นต้น ส่วนผู้ป่วยนอกที่ต้องมารอคิว จนแออัดก็จะกระจายให้รักษาใกล้บ้าน คือ โรงพยาบาลชุมชน ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาโรคทั่วไปได้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่