“พล.ร.อ.ณรงค์” เรียกปลัด 7 กระทรวงชี้แจงแนวทางการทำงาน สั่งเร่งผลักดันโครงการเร่งด่วนให้ทันกรอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 เล็งรื้อโครงการแจกแท็บเล็ต ยอมรับยึดอำนาจทำนักท่องเที่ยวหด เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ เชื่อหากสถานการณ์สงบ อาจยกเลิกกฎอัยการศึกเร็ว
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต วันนี้ (27 พ.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำกับดูแลฝ่ายสังคมจิตวิทยา เป็นประธานการประชุมชี้แจงและหารือแนวทางการทำงานของฝ่ายสังคมจิตวิทยาร่วมกับปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง 7 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง
พล.ร.อ.ณรงค์แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับฟังและมอบแนวทางการดำเนินงานให้แต่ละกระทรวงว่าจะทำอะไรต่อไป โดยเรื่องหลักคือให้ทุกกระทรวงเร่งผลักดันโครงการเร่งด่วนของตัวเองให้ลุล่วงโดยเร็วและทันต่อกรอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 โดย คสช.ฝ่ายสังคมและจิตวิทยาจะช่วยดูในโครงการสำคัญว่าที่ผ่านมาโครงการใดมีความเหมาะสมและมีแผนงานรองรับเพียงพอหรือไม่
นอกจากนี้ยังได้ให้ปลัดทุกกระทรวงสะท้อนปัญหาการทำงานในปัจจุบันและที่ผ่านมาให้ทราบเพื่อให้ช่วยกันดำเนินการ เนื่องจากงานในส่วนสังคมและจิตวิทยามีความเชื่อมโยงกันหลายกระทรวง รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ที่มีการเสนอค้างไว้ที่จะต้องพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน ยังพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาและก่อนหน้านี้ว่า มาจากคนในสังคม ดังนั้นเราต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรให้สังคมมีความสงบสุข สมานฉันท์กลมเกียวกัน ถือเป็นงานที่ท้าทาย
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า สำหรับโครงการของกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะต้องเร่งทำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยดูงบประมาณที่ยังเหลือว่าจะดำเนินการโครงการต่างๆ เช่น โครงการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และโครงการจัดซื้อแท็ปเล็ตและคอมพิวเตอร์พกพาซึ่งบางส่วนมีการจัดซื้อไปแล้ว และยังต้องมาทบทวนการดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดขัดเรื่องธุรการจากการยุบสภา จึงต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะทำต่อไปได้หรือไม่
ทั้งนี้ ยอมรับว่าสถานการณ์ตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึกและมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตกใจกับสถานการณ์ในบ้านเรา และทำให้ตัวเลขของนักเที่ยวที่เดินทางมาลดลงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงให้ทราบว่าปัจจุบันสถานการณ์ในบ้านเราไม่รุนแรงอย่างที่คิด ในความเป็นจริงไม่ได้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น และเหตุการณ์เป็นปกติมากกว่าตอนประกาศกฎอัยการศึกด้วยซ้ำ ซึ่งการจะยกเลิกขึ้นอยู่กับหัวหน้า คสช.จะพิจารณา หากสถานการณ์สงบเรียบร้อยอาจจะยกเลิกได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับแนวทางการสร้างความสงบสุขของคนในชาตินั้น ผบ.ทร.กล่าวว่า ตอนนี้เรามีแนวทางที่จะต้องทำให้สังคมกลับมาสงบสุข โดยขอให้ทุกกระทรวงช่วยคิดร่วมกับ คสช. และนำกลับมาเสนอให้ทราบซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ยืนยันว่าเราจะทำแน่นอน