สธ. เผยเด็กกาฬสินธุ์พบสารตะกั่วในเลือดพุ่งเกินมาตรฐาน เหตุที่บ้านทำงานแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ระบุพัฒนาการยังปกติ จ่อเดินหน้าดูแลสุขภาพคนกาฬสินธุ์ 5 แผน ใน 1-2 เดือน
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีชาวบ้าน ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ มีปัญหาสุขภาพจากการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยพบสารตะกั่วในเม็ดเลือด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่พบอยู่ในขั้นอันตราย ว่า สธ.ได้ติดตามเฝ้าระวังปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2551 โดยผลการสุ่มเจาะเลือดหาสารตะกั่วเมื่อวันที่ 7-8 มี.ค. 2556 พบว่ากลุ่มผู้ใหญ่ 102 คน ทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 122 คน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่พบ 1 ราย อายุ 1 ขวบ 6 เดือน มีค่าสารตะกั่วในเลือดในระดับ 13.2 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดคือ ไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า เด็กรายนี้ที่บ้านประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทีมแพทย์ได้ติดตามตรวจวัดฝุ่นตะกั่วในสิ่งแวดล้อมภายในบ้านด้วย พบฝุ่นตะกั่วที่ชิ้นส่วนของเก่า ที่นอนแบบพับ กระเป๋าเด็กเล็ก ฝาโอ่งน้ำ และได้แก้ไขปรับปรุงให้ปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรค (คร.) ร่วมกับกรมอนามัยและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กาฬสินธุ์ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชนจากสารตะกั่วอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดี คร. กล่าวว่า แหล่งคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศมีประมาณ 94 แห่ง ใน 17 จังหวัด โดยมากสุดที่ จ.กาฬสินธุ์ มี 48 แห่ง คร. ได้วางแผนติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพของประชาชน โดยกาฬสินธุ์มี 5 แผน จะดำเนินการใน 1-2 เดือนนี้ คือ 1. ตรวจเลือดประชาชนในพื้นที่ที่ประกอบอาชีพคัดแยกขยะทุก 1 ปี เพื่อหาสารอันตรายทุก 1 ปีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 2. ตรวจสิ่งแวดล้อมร่วมกับกรมอนามัย 3. ตรวจพัฒนาการเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี 4. สำรวจอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านเรือนที่มีความเสี่ยงปนเปื้อนสารตะกั่ว และ 5. จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดย สธ.จะเป็นฝ่ายสนับสนุนด้านวิชาการ
นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นพ.สสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลการติดตามสุขภาพเด็กวัย 1 ปี 6 เดือน ที่พบค่าตะกั่วเกินมาตรฐาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามเฝ้าระวังสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ส่วนพัฒนาการอยู่ในระดับปกติ อย่างไรก็ตาม สสจ. ได้ให้คำแนะนำการในการป้องกันการสัมผัสสารตะกั่วหรือสารอันตรายอื่นๆ เช่น ให้ใส่ถุงมือผ้าและหน้ากากอนามัย ให้ชำระล้างร่างกายเมื่อเสร็จภารกิจ ไม่กินอาหารในพื้นที่คัดแยกขยะ ให้ดื่มน้ำดื่มที่สะอาดหรือน้ำกรองบรรจุขวด มาตรการเฝ้าระวังที่ สสจ. กาฬสินธุ์ ร่วมกับ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ศูนย์อนามัย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอฆ้องชัยที่ได้ดำเนินการมาก่อนนี้ คือ ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสสารพิษ ประเมินความเสี่ยงจากการทำงานในสถานที่ที่มีการคัดแยกขยะ พร้อมให้คำปรึกษากลุ่มเสี่ยงในการป้องกันตนเอง ซึ่งในปีนี้มีแผนที่จะตรวจหาสารตะกั่วในน้ำอุปโภคบริโภค และพืชผักที่ปลูกในหมู่บ้าน ใน 1 - 2 เดือนนี้ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยในพื้นที่ และจะประชุมร่วมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการปัญหาขยะ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 10 - 20 ตัน