อาการสมองขาดเลือดชั่วคราว สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง อึ้ง! ส่วนใหญ่เป็นทันทีหลังมีอาการ 2-3 วันแรก เผยหากหลอดเลือดสมองแตกอาจเสียชีวิตได้ แนะสังเกตอาการทั้งหน้า แขน ขา อ่อนแรง พูดไม่รู้เรื่อง มองเห็นลดลง มีปัญหาการเดิน รีบไปพบแพทย์ใน 3 ชั่วโมง มีโอกาสกลับเป็นปกติได้
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ค. ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็นวันอัมพฤกษ์ อัมพาตโลก หรือวันหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้ ในไทยพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นทุกปี ซึ่งหากประชาชนดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ สำหรับปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติญาติสายตรงเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการเตือนที่สำคัญ คือ สมองขาดเลือดชั่วคราว โดยผู้ที่มีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว 1 ใน 5 คน จะมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน และส่วนใหญ่จะพบใน 2 - 3 วันแรกหลังจากมีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยที่หลอดเลือดสมองแตกนั้น อาจมีอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการซึม หมดสติและเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากพบว่าตนเอง มีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขา ซึ่งจะเป็นซีกเดียวของร่างกาย สับสน พูดลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการพูด การมองเห็นลดลง 1 ข้าง หรือทั้ง 2 ข้าง และมีปัญหาการเดิน มึนงง สูญเสียสมดุลของการเดิน โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
“สิ่งที่สำคัญคือผู้ป่วยต้องสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากพบอาการข้างต้น ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมง จะช่วยรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติ หรือใกล้เคียงได้มากที่สุด สำหรับแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง คือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารรสเค็มจัด ไขมันสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วันที่ 24 พ.ค. ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็นวันอัมพฤกษ์ อัมพาตโลก หรือวันหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้ ในไทยพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นทุกปี ซึ่งหากประชาชนดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ สำหรับปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติญาติสายตรงเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ และภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการเตือนที่สำคัญ คือ สมองขาดเลือดชั่วคราว โดยผู้ที่มีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว 1 ใน 5 คน จะมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน และส่วนใหญ่จะพบใน 2 - 3 วันแรกหลังจากมีอาการสมองขาดเลือดชั่วคราว
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยที่หลอดเลือดสมองแตกนั้น อาจมีอาการปวดศีรษะเฉียบพลัน อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการซึม หมดสติและเสียชีวิตได้ ดังนั้น หากพบว่าตนเอง มีอาการอ่อนแรงของหน้า แขน ขา ซึ่งจะเป็นซีกเดียวของร่างกาย สับสน พูดลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการพูด การมองเห็นลดลง 1 ข้าง หรือทั้ง 2 ข้าง และมีปัญหาการเดิน มึนงง สูญเสียสมดุลของการเดิน โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
“สิ่งที่สำคัญคือผู้ป่วยต้องสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากพบอาการข้างต้น ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมง จะช่วยรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติ หรือใกล้เคียงได้มากที่สุด สำหรับแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง คือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงอาหารรสเค็มจัด ไขมันสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่