รพ.แพทย์แผนไทยยศเส แจง ตำรับยารักษามะเร็งตับ “เบญจอำมฤตย์” ใช้เป็นสูตรยานำรักษามะเร็งอื่นได้ ระบุหากอาการดีขึ้นจึงเปลี่ยนสูตร เผยมะเร็งปอดใช้ “ตำรับยาฝีมะเร็งทรวง” คาด พ.ค. นี้ ปรุงยาเสร็จสิ้น ส่วนมะเร็งเต้านม-รังไข่ ใช้ “สูตรยาวัดคำประมง” เล็งศึกษาวิจัยเพิ่ม
นพ.วัฒนะ พันธุ์ม่วง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้เพิ่มกำลังการผลิตตำรับยารักษามะเร็ง “เบญจอำมฤย์ จาก 3,000-5,000 เม็ดต่อวัน เป็น 10,000 เม็ดต่อวันแล้ว ซึ่งจากการติดตามอาการผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายจำนวนกว่า 2,200 รายที่มารับยา พบว่า 70% มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถกินข้าวได้ นอนหลับได้ ท้องไม่อืด สามารถขับถ่ายได้ เคลื่อนไหวขยับร่างกายได้ ที่สำคัญมีอายุยืนยาวขึ้น จากเดิมที่ได้รับการวินิจฉัยว่าอาจอยู่ได้ไม่นานเกิน 3 เดือน ก็สามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน หรือ 1-2 ปี
นพ.วัฒนะ กล่าวอีกว่า นอกจากอาศัยตำรับยารักษามะเร็งแล้ว หากจะให้ได้ผลจะต้องรักษาแบบองค์รวมคือ ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตัวด้วยการลดอาหารแสลง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู อาหารหมักดอง เหล้า และบุหรี่ เพิ่มการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกาย เช่น ฤาษีดัดตน การทำสมาธิบำบัด เป็นต้น และต้องสอนการดูแลเหล่านี้แก่ญาติผู้ป่วยด้วย เพราะหากสุขภาพกายจิตดี มีญาติดูแลดี ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น
“จริงๆ แล้วตำรับยาเบญจอำมฤตย์ ไม่เพียงแต่เป็นตำรับยารักษามะเร็งตับระยะสุดท้ายอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นตำรับยารักษาพื้นฐานของโรคมะเร็งต่างๆ เช่น ตับ ท่อน้ำดี ลำไส้ ปอด ปากมดลูก เต้านม ซึ่งเมื่อมีการรักษาโดยสูตรยาตำรับนี้ไปสักระยะ หากอาการดีขึ้นก็จะมีการปรับสูตรยาตัวใหม่ให้เหมาะสมกับโรคมะเร็งแต่ละชนิด เช่น มะเร็งปอด เมื่อรักษาด้วยตำรับยาเบญจอำมฤตย์จนอาการดีขึ้นแล้ว ก็จะใช้ตำรับยาฝีมะเร็งทรวงรักษาต่อ หรือมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ เมื่ออาการดีขึ้นก็จะปรับไปใช้สุตรยาวัดคำประมง จ.สกลนคร” ผอ.รพ.ยศเส กล่าว
นพ.วัฒนะ กล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าตำรับยารักษาฝีทรวง ขณะนี้ยังไม่สมบูรณ์ดี ยังต้องใช้เวลาในการหมักยา เนื่องจากยาดังกล่าวเป็นยาน้ำ และยังขาดกระบวนการผลิตในการบรรจุ ซึ่งการรับอาสาสมัครผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายนั้น หากยาปรุงสำเร็จก็สามารถรับสมัครได้เลย ภายในเดือน พ.ค. นี้ โดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งการรักษาด้วยตำรับยาดังกล่าวทุกสิทธิการรักษาสามารถเบิกได้ ยกเว้นใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพนอกเขต อาจจะต้องขอค่ายาในราคาต้นทุน เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการผลิตยาเพิ่มเพื่อผู้ป่วยคนอื่น โดยต้นทุนของยายังไม่ชัดเจน แต่คาดประมาณว่า ยาฝีมะเร็งทรวงขนาด 500 ซีซี ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60-80 บาท โดย 1 ขวดสามารถใช้กินรักษาได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ขึ้นกับอาการของผู้ป่วย นอกจากนี้ กรมฯจะเตรียมศึกษาวิจัยยาสูตรวัดคำประมง จ.สกลนคร ต่อด้วย