ข่าวดี! เตรียมกระจายตำรับยา “เบญจอำมฤตย์” รักษามะเร็งตับไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายแพทย์แผนไทยอีก 11 แห่งทั่วประเทศ พ.ค.นี้ เพิ่มกำลังผลิตวันละ 10,000 เม็ด กรมแพทย์แผนไทยฯชี้ 60% อาการสำคัญของโรคดีขึ้น รอสรุปผลวิจัยอีก 5 ปี
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งที่มารับบริการ ว่า หลังจากเปิดตัวตำรับ “ยาเบญจอำมฤตย์” ซึ่งเป็นสูตรยาบำบัดผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย และมีการแจกฟรีนั้น ปรากฏว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเข้ามารับบริการที่ รพ.ยศเส วันละมากกว่า 100 คน เข้ารับการรักษาจำนวน 2,800 ครั้งภายใน 1 เดือนครึ่ง ซึ่งขณะนี้กรมฯ ได้มีการกระจายยาดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยอีก 3 แห่ง คือ รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รพ.เคียนซา และ รพ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี
“ปัจจุบันมีโรงพยาบาลทั้งหมด 4 แห่งในกลุ่มแพทย์แผนไทยที่แจกตำรับยาเบญจอำมฤตย์ โดยสามารถผลิตยาดังกล่าวประมาณ 3,000-5,000 เม็ดต่อวัน แต่จากความต้องการของผู้ป่วย ในช่วง พ.ค.นี้จะกระจายไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายแพทย์แผนไทยอีก 11 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเพิ่มกำลังผลิตเป็นวันละ 10,000 เม็ด” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้ป่วยเพื่อสรุปผลการวิจัยต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ปี แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ผู้ป่วยที่มาจะเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับ ต่อมน้ำเหลือง และเต้านม โดยพบว่าร้อยละ 80 จะเป็นมะเร็งตับ ชนิดที่เกิดจากการดื่มเหล้าและไวรัสตับอักเสบ ซึ่งในจำนวนนี้ ร้อยละ 60 ผู้ป่วยมีอาการที่เป็นปัญหาสำคัญของโรคดีขึ้น คือ อาการปวดทุเลาลง รับประทานอาหารได้ นอนหลับได้ อาการบวมน้อยลง อาการเหนื่อยน้อยลง อีกร้อยละ 20-30 อาการทรงๆ ยังต้องติดตาม โดยส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นผู้ป่วยที่แพทย์ลงความเห็นว่าหมดหวังและรักษาตามอาการ ซึ่งจะเป็นในผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือระยะที่ 4
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งที่มารับบริการ ว่า หลังจากเปิดตัวตำรับ “ยาเบญจอำมฤตย์” ซึ่งเป็นสูตรยาบำบัดผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย และมีการแจกฟรีนั้น ปรากฏว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเข้ามารับบริการที่ รพ.ยศเส วันละมากกว่า 100 คน เข้ารับการรักษาจำนวน 2,800 ครั้งภายใน 1 เดือนครึ่ง ซึ่งขณะนี้กรมฯ ได้มีการกระจายยาดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยอีก 3 แห่ง คือ รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รพ.เคียนซา และ รพ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี
“ปัจจุบันมีโรงพยาบาลทั้งหมด 4 แห่งในกลุ่มแพทย์แผนไทยที่แจกตำรับยาเบญจอำมฤตย์ โดยสามารถผลิตยาดังกล่าวประมาณ 3,000-5,000 เม็ดต่อวัน แต่จากความต้องการของผู้ป่วย ในช่วง พ.ค.นี้จะกระจายไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายแพทย์แผนไทยอีก 11 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเพิ่มกำลังผลิตเป็นวันละ 10,000 เม็ด” นพ.ธวัชชัย กล่าว
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับการติดตามผู้ป่วยเพื่อสรุปผลการวิจัยต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ปี แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ผู้ป่วยที่มาจะเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับ ต่อมน้ำเหลือง และเต้านม โดยพบว่าร้อยละ 80 จะเป็นมะเร็งตับ ชนิดที่เกิดจากการดื่มเหล้าและไวรัสตับอักเสบ ซึ่งในจำนวนนี้ ร้อยละ 60 ผู้ป่วยมีอาการที่เป็นปัญหาสำคัญของโรคดีขึ้น คือ อาการปวดทุเลาลง รับประทานอาหารได้ นอนหลับได้ อาการบวมน้อยลง อาการเหนื่อยน้อยลง อีกร้อยละ 20-30 อาการทรงๆ ยังต้องติดตาม โดยส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นผู้ป่วยที่แพทย์ลงความเห็นว่าหมดหวังและรักษาตามอาการ ซึ่งจะเป็นในผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือระยะที่ 4
