ซั่งไห่อิสต์ (Shanghaiist)- จากรายงานของเซี่ยงไฮ้เดลีพบว่า นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากไม่พิจารณาปัจจัยด้านจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มที่สูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นการบริโภคเนื้อมากขึ้น การกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพน้อยลง และวิถีชีวิตที่ทำให้ต้องอยู่กับที่มากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา (2556) เซี่ยงไฮ้ออกโปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฟรี และจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนมี.ค.ที่เพิ่งผ่านมานี้ (2557) โปรแกรมดังกล่าวให้บริการตรวจประชาชนไปแล้วถึง 1,120,000 คน โดยพบว่ามีประชาชนถึง 205,000 คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง ส่วน 55,000 คนต้องเข้ารับการตรวจเช็คอย่างละเอียดต่อไปในโรงพยาบาล และ 943 คนตรวจพบมะเร็งดังกล่าว
จากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่ตรวจพบทั้งหมดในปีที่แล้ว (2556) จำนวน 56,445 คน ทำให้อัตราการเกิดโรคดังกล่าวอยู่ที่ 399 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ปี 2555 อัตราดังกล่าวอยู่ที่ 390 คนต่อประชากร 100,000 คน คณะกรรมการวางแผนสุขภาพและครอบครัวเซี่ยงไฮ้กล่าวเมื่อวันก่อน (17 เม.ย.) ก่อนที่จะเริ่มนโยบายสัปดาห์แห่งการป้องกันและควบคุมเนื้องอกขึ้นในเซี่ยงไฮ้
ในปี 2556 เซี่ยงไฮ้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งจำนวน 36,239 ราย หรือก็คือ 256 รายในประชากรทุก 100,000 คน ซึ่งน้อยกว่าในปี 2555 ที่มีอัตราการเสียชีวิตด้วยสาเหตุประเภทเดียวกันที่ 258 รายต่อประชากร 100,000 คน การสำรวจชี้ให้เห็นว่า การเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเซี่ยงไฮ้ค่อยๆลดจำนวนลงตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
อนึ่ง ในเซี่ยงไฮ้ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสองรองจากแค่มะเร็งปอดเท่านั้น
จากตัวเลขของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเซี่ยงไฮ้ในปีที่ผ่านมา (2556) พบว่า ในประชากรเซี่ยงไฮ้ 60 คนจะตรวจพบมะเร็ง 1 คน ประชากรเพศหญิงของเซี่ยงไฮ้เป็นมะเร็งถึง 2 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่เป็นมะเร็งเต้านม และนอกจากนี้ตัวเลขยังแสดงให้เห็นว่าอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมมีแนวโน้มสูงขึ้น
ด้านประชากรเพศชาย พบว่าเป็นมะเร็ง 1.5 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่เป็นมะเร็งปอด
ในประเทศจีน การสูบบุหรี่นับเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็ง ผู้ชายจีนมากกว่าครึ่งนิยมสูบบุหรี่ ในขณะที่แพทย์ถึง 41 เปอร์เซ็นต์ก็นิยมสูบบุหรี่เช่นกัน ส่วนตัวเลขผู้หญิงที่นิยมสูบบุหรี่ในเซี่ยงไฮ้ก็สูงขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 3.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 เป็น 4.8 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับโรคมะเร็ง แพทย์ยังคงแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำ การศึกษาทบทวนการใช้ยา การกระตุ้นให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่ การควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายรวมทั้งบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
ในปีที่ผ่านมา (2556) เซี่ยงไฮ้ออกโปรแกรมการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฟรี และจนกระทั่งถึงสิ้นเดือนมี.ค.ที่เพิ่งผ่านมานี้ (2557) โปรแกรมดังกล่าวให้บริการตรวจประชาชนไปแล้วถึง 1,120,000 คน โดยพบว่ามีประชาชนถึง 205,000 คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง ส่วน 55,000 คนต้องเข้ารับการตรวจเช็คอย่างละเอียดต่อไปในโรงพยาบาล และ 943 คนตรวจพบมะเร็งดังกล่าว
จากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่ตรวจพบทั้งหมดในปีที่แล้ว (2556) จำนวน 56,445 คน ทำให้อัตราการเกิดโรคดังกล่าวอยู่ที่ 399 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ปี 2555 อัตราดังกล่าวอยู่ที่ 390 คนต่อประชากร 100,000 คน คณะกรรมการวางแผนสุขภาพและครอบครัวเซี่ยงไฮ้กล่าวเมื่อวันก่อน (17 เม.ย.) ก่อนที่จะเริ่มนโยบายสัปดาห์แห่งการป้องกันและควบคุมเนื้องอกขึ้นในเซี่ยงไฮ้
ในปี 2556 เซี่ยงไฮ้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งจำนวน 36,239 ราย หรือก็คือ 256 รายในประชากรทุก 100,000 คน ซึ่งน้อยกว่าในปี 2555 ที่มีอัตราการเสียชีวิตด้วยสาเหตุประเภทเดียวกันที่ 258 รายต่อประชากร 100,000 คน การสำรวจชี้ให้เห็นว่า การเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเซี่ยงไฮ้ค่อยๆลดจำนวนลงตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
อนึ่ง ในเซี่ยงไฮ้ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับสองรองจากแค่มะเร็งปอดเท่านั้น
จากตัวเลขของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเซี่ยงไฮ้ในปีที่ผ่านมา (2556) พบว่า ในประชากรเซี่ยงไฮ้ 60 คนจะตรวจพบมะเร็ง 1 คน ประชากรเพศหญิงของเซี่ยงไฮ้เป็นมะเร็งถึง 2 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่เป็นมะเร็งเต้านม และนอกจากนี้ตัวเลขยังแสดงให้เห็นว่าอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมมีแนวโน้มสูงขึ้น
ด้านประชากรเพศชาย พบว่าเป็นมะเร็ง 1.5 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่เป็นมะเร็งปอด
ในประเทศจีน การสูบบุหรี่นับเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็ง ผู้ชายจีนมากกว่าครึ่งนิยมสูบบุหรี่ ในขณะที่แพทย์ถึง 41 เปอร์เซ็นต์ก็นิยมสูบบุหรี่เช่นกัน ส่วนตัวเลขผู้หญิงที่นิยมสูบบุหรี่ในเซี่ยงไฮ้ก็สูงขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 3.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 เป็น 4.8 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับโรคมะเร็ง แพทย์ยังคงแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำ การศึกษาทบทวนการใช้ยา การกระตุ้นให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่ การควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายรวมทั้งบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
