เอเจนซีส์ - ผู้เชี่ยวชาญชี้ สาเหตุที่จะมียอดผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาได้ปรับการใช้วิถีชีวิตคล้ายกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศอุตสาหกรรม และการรักษาไม่อาจทำได้ผลเพราะตรวจพบมะเร็งเมื่อระยะเกือบสุดท้าย
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้รายงานว่า ในทุกปีมีผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี โดยการตรวจพบมะเร็งได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 12.7 ล้านคน ในปี 2008 เพิ่มมากกว่า 14 ล้านคน ในปี 2012 และสาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดจากมะเร็งเพิ่มจาก 7.6 ล้านคน เป็น 8.2 ล้านคน ซึ่ง WHO ได้คาดการณ์ว่าตัวเลขของผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลกจะมีสูงกว่า 19 ล้านคนต่อปี ก่อนปี 2025
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้การที่มีผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นเป็นเพราะประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาส่วนมากได้รับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตจากประเทศอุตสาหกรรม รายงานจากบีบีซี
ซึ่งสื่ออังกฤษได้รายงานว่า การสูบบุหรี่ ความอ้วน และมีช่วงชีวิตที่ยาวนานขึ้นล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเพิ่มจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็ง
จากรายงานพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดราว 1.8 ล้านคน ซึ่งจัดว่าเป็นมะเร็งที่คนส่วนใหญ่ทั่วโลกเป็นมากที่สุด และมีสัดส่วนราว 13% จากมะเร็งทุกประเภทที่ตรวจพบ ในขณะที่มะเร็งเต้านมถือเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2008 WHO รายงานต่อ
และสิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ในบางกรณีการรักษาไม่ได้ผลเพราะตรวจพบมะเร็งในระยะที่เชื้อมะเร็งได้ลุกลามไปทั่วแล้ว ซึ่งการตรวจพบในระยะเกือบสุดท้ายนี้พบมากที่สุดในวัยรุ่นและวัยเริ่มต้นของการทำงาน
นอกจากนี้ การศึกษาอีกชิ้นที่ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์อังกฤษยืนยันว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่มีช่วงอายุระหว่าง 19 ปี จนถึง 25 ปีนั้น ต้องไปพบแพทย์ประจำตัว 3-4 ครั้งก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง รายงานจากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน
และเหตุนี้ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่ออัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง และทำให้เกิด “Cancer's lost generation” ขึ้น
“ครอบครัวของผมมีประวัติการป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ( Bowel Cancer) และครอบครัวผมได้ถามคุณหมอว่า ผมอาจมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่และได้ร้องขอคุณหมอให้ตรวจผมด้วยระบบสแกน” ผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้วัย 18 ปีเผย
และเขาเผยต่อไปว่า แพทย์ประจำตัวของเขาได้ตอบกลับมาว่า “ไม่...ไม่ได้แน่นอน คุณอายุน้อยเกินไปที่จะป่วยด้วยโรคนี้” และหลังจากนั้นอีก 6 เดือนหลังจากการวินิจฉัยที่ผิดพลาด ผู้ป่วยวัย 18 ปีได้รับการยืนยันว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้
นอกจากนี้พบว่าความสูญเสียจากโรคมะเร็งนั้นยังมีผลอย่างมากต่อญาติของผู้ป่วยอีกด้วย เมลานี เพซ ชาวอเมริกันได้ถ่ายภาพอัลบัมรูปงานแต่งงานน้องสาวของเธอ แอลลี นิวเนอรี ในปี 2009 แอลลีที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดในปี 2011 ได้ทิ้งให้สามี เบน นิวเนอรี ที่ยังไม่สามารถทำใจได้กับการสูญเสียได้ อาศัยอยู่บุตรสาว โอลิเวีย วัย 3 ปี อัลบั้มภาพถ่ายงานแต่งงานของแอลลีนั้นถูกทำใหม่โดยเบนซึ่งมีภาพของเบนและลูกสาวตัวน้อยของคนทั้งคู่ประกบแทน รูปถ่ายที่ทำขึ้นเพื่อแสดงถึงการรำลึกและคิดถึงแอลลีผู้จากไป