โดย...หยาง เผยเซิน ศูนย์ธรรมชาติบำบัด อ หยาง
คนเมืองมีวิถีชีวิตแบบเร่งรีบ และอยู่ใต้สภาวะความกดดัน ความเครียดจากการทำงาน ขาดการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้คนสมัยใหม่มักมีอาการ “ออฟฟิศซินโดรม” ซึ่งตามหลักแพทย์แผนจีนเชื่อว่า “โรคภัยเกิดจากการหมุนเวียนของเลือดลมไม่ปรุโปร่ง” ทำให้เกิดการอุดตันขึ้นจนกลายเป็นอาการปวด
การครอบแก้ว เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดวิธีหนึ่ง โดยสังเกตได้จากรอยวงกลมสีแดงช้ำที่ปรากฏ มันคือการแตกตัวของเม็ดเลือดที่อุดตันอยู่ การกระตุ้นให้มันกระจายตัวจะทำให้การหมุนเวียนเลือดคล่องขึ้น ไม่ติดขัด และเป็นไปตามระบบร่างกาย ดังนั้น การครอบแก้วจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เพราะเลือดลมที่หมุนเวียนดีอีกด้วย
การครอบแก้วสามารถกระตุ้นปรับชี่ในเส้นลมปราณให้เกิดการไหลเวียนสะดวก เพื่อไปกระตุ้นสมรรถนะของระบบอวัยวะตันและอวัยวะกลวงต่างๆ ช่วยให้เส้นลมปราณและอวัยวะสำคัญทำงานปกติ ไม่เพียงเท่านี้ การครอบแก้วยังสามารถเพิ่มภูมิต้านทาน และถือว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เป็นเลิศในด้านการบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ เมื่อผนวกเข้ากับหลักเส้นลมปราณ การครอบแก้วจึงยิ่งเพิ่มพลังการรักษาสุขภาพได้มากขึ้น โดยสามารถบรรเทาโรคไหล่ติด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ท้องผูก เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไอ หอบหืด หลอดลมอักเสบ ลมพิษ เป็นต้น แต่โรคที่ใช้บ่อยที่สุดคือ โรคปวดเมื่อย ไม่ว่าจะปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า และปวดประจำเดือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายหลังการครอบแก้วจะมีรอยแก้วที่สะท้อนให้ทราบถึงปัญหาของร่างกาย อาทิ รอยแก้วมีสีม่วงดำคล้ำ แสดงว่ามีอาการเลือดคั่งและได้พิษเย็น หากรอยมีสีม่วงอ่อนแกมสีเขียวเป็นก้อน แสดงว่าชี่อ่อนแอเลือดคั่ง ถ้ารอยมีสีแดงสด แสดงว่า หยินพร่องไฟแกร่ง หรือภายหลังวิ่งแก้วบนแผ่นหลัง เกิดมีจุดเล็กๆ สีแดงจำนวนหนึ่งปรากฏใกล้ที่จุดฝังเข็มใด แสดงว่าอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับจุดนั้นผิดปกติ
ครอบแก้วเป็นวิธีที่ใช้ภาชนะถ้วยหรือแก้วเป็นอุปกรณ์ และใช้ความร้อนจากการเผาไหม้หรือวิธีอื่นระบายไล่อากาศภายในภาชนะออกให้เป็นสุญญากาศจนสามารถครอบภาชนะนั้นลงบนผิวหนัง ความอุ่นร้อนภายในภาชนะจะกระตุ้นให้ผิวหนังปรากฏสีของเลือดคั่งอุดตัน เพื่อดูดพิษ ทะลวงเส้นลมปราณ และสลายเลือดคั่ง สาเหตุของโรคภัยนั่นเอง
ภาชนะที่เป็นที่นิยมคือ ถ้วยไม่ไผ่ ถ้วยแก้ว และถ้วยปั๊มอากาศ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ถ้วยไม้ไผ่นั้นมีราคาถูก มีแรงดูดสูง ไม่แตกง่าย แต่ไม่โปร่งใส จึงไม่สามารถสังเกตสีผิวหนังภายในได้ ส่วนถ้วยแก้วนั้นใส สามารถกำหนดเวลาครอบแก้วจากการสำรวจผิวภายในขอบแก้วที่เกิดรอยเลือดคั่งได้โดยตรง สุดท้าย ถ้วยปั๊มอากาศ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอุปกรณ์การครอบแก้วชนิดหนึ่ง เพราะส่วนล่างของแก้วจะติดตั้งแป้นยางไว้ให้สำหรับไล่อากาศออกจากแก้วจนเป็นสุญญากาศ แก้วจึงดูดติดที่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการเพื่อระบายไอโรคออกจากรูขุมขน อันเป็นเป้าหมายของการครอบแก้ว
วิธีครอบแก้วก็มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ แก้วกะพริบ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั๊มอากาศ แต่ที่นิยมคือ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั๊มอากาศ แก้วนิ่งเป็นรูปแบบทั่วไป คือปล่อยให้แก้วครอบอยู่ที่เดิมเป็นเวลา 5-15 นาที แต่แก้ววิ่งจะเป็นการรูดแก้วไปทางด้านบน-ล่าง-ซ้าย-ขวา จนกระทั่งผิวมีสีแดงสดหรือเกิดรอยเลือดคั่ง เป็นวิธีดูแลสุขภาพสำหรับอาการชา ชาจากพิษลมชื้น ปวดจากบาดเจ็บฟกช้ำภายนอก มีไข้ เป็นต้น สุดท้าย แก้วปั๊มอากาศ เป็นรูปแบบที่สามารถปรับแรงดูดให้สอดคล้องกับอาการโรคและตำแหน่งได้ตามความต้องการ
การครอบแก้วนั้นถึงจะเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ก็มีข้อควรระวัง คือควรเลือกบริเวณที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์มีความยืดหยุ่น ไม่มีขน และโครงกระดูก รอยบุ๋มเข้าหรือนูนออก เพื่อหลีกเลี่ยงแก้วจะหลุดออก และห้ามครอบแก้วด้านซ้ายขวาลำคอซึ่งเป็นบริเวณของเส้นเลือดใหญ่ และควรดึงแก้วออกอย่างเบามือโดยใช้นิ้วกดที่กล้ามเนื้อปากแก้วให้อากาศเข้าไป แก้วก็จะหลุดออก ห้ามใช้แรงดึง หรือหมุนแก้วออก เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้
คนเมืองมีวิถีชีวิตแบบเร่งรีบ และอยู่ใต้สภาวะความกดดัน ความเครียดจากการทำงาน ขาดการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้คนสมัยใหม่มักมีอาการ “ออฟฟิศซินโดรม” ซึ่งตามหลักแพทย์แผนจีนเชื่อว่า “โรคภัยเกิดจากการหมุนเวียนของเลือดลมไม่ปรุโปร่ง” ทำให้เกิดการอุดตันขึ้นจนกลายเป็นอาการปวด
การครอบแก้ว เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดวิธีหนึ่ง โดยสังเกตได้จากรอยวงกลมสีแดงช้ำที่ปรากฏ มันคือการแตกตัวของเม็ดเลือดที่อุดตันอยู่ การกระตุ้นให้มันกระจายตัวจะทำให้การหมุนเวียนเลือดคล่องขึ้น ไม่ติดขัด และเป็นไปตามระบบร่างกาย ดังนั้น การครอบแก้วจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เพราะเลือดลมที่หมุนเวียนดีอีกด้วย
การครอบแก้วสามารถกระตุ้นปรับชี่ในเส้นลมปราณให้เกิดการไหลเวียนสะดวก เพื่อไปกระตุ้นสมรรถนะของระบบอวัยวะตันและอวัยวะกลวงต่างๆ ช่วยให้เส้นลมปราณและอวัยวะสำคัญทำงานปกติ ไม่เพียงเท่านี้ การครอบแก้วยังสามารถเพิ่มภูมิต้านทาน และถือว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เป็นเลิศในด้านการบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ เมื่อผนวกเข้ากับหลักเส้นลมปราณ การครอบแก้วจึงยิ่งเพิ่มพลังการรักษาสุขภาพได้มากขึ้น โดยสามารถบรรเทาโรคไหล่ติด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ท้องผูก เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไอ หอบหืด หลอดลมอักเสบ ลมพิษ เป็นต้น แต่โรคที่ใช้บ่อยที่สุดคือ โรคปวดเมื่อย ไม่ว่าจะปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า และปวดประจำเดือน เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายหลังการครอบแก้วจะมีรอยแก้วที่สะท้อนให้ทราบถึงปัญหาของร่างกาย อาทิ รอยแก้วมีสีม่วงดำคล้ำ แสดงว่ามีอาการเลือดคั่งและได้พิษเย็น หากรอยมีสีม่วงอ่อนแกมสีเขียวเป็นก้อน แสดงว่าชี่อ่อนแอเลือดคั่ง ถ้ารอยมีสีแดงสด แสดงว่า หยินพร่องไฟแกร่ง หรือภายหลังวิ่งแก้วบนแผ่นหลัง เกิดมีจุดเล็กๆ สีแดงจำนวนหนึ่งปรากฏใกล้ที่จุดฝังเข็มใด แสดงว่าอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับจุดนั้นผิดปกติ
ครอบแก้วเป็นวิธีที่ใช้ภาชนะถ้วยหรือแก้วเป็นอุปกรณ์ และใช้ความร้อนจากการเผาไหม้หรือวิธีอื่นระบายไล่อากาศภายในภาชนะออกให้เป็นสุญญากาศจนสามารถครอบภาชนะนั้นลงบนผิวหนัง ความอุ่นร้อนภายในภาชนะจะกระตุ้นให้ผิวหนังปรากฏสีของเลือดคั่งอุดตัน เพื่อดูดพิษ ทะลวงเส้นลมปราณ และสลายเลือดคั่ง สาเหตุของโรคภัยนั่นเอง
ภาชนะที่เป็นที่นิยมคือ ถ้วยไม่ไผ่ ถ้วยแก้ว และถ้วยปั๊มอากาศ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ถ้วยไม้ไผ่นั้นมีราคาถูก มีแรงดูดสูง ไม่แตกง่าย แต่ไม่โปร่งใส จึงไม่สามารถสังเกตสีผิวหนังภายในได้ ส่วนถ้วยแก้วนั้นใส สามารถกำหนดเวลาครอบแก้วจากการสำรวจผิวภายในขอบแก้วที่เกิดรอยเลือดคั่งได้โดยตรง สุดท้าย ถ้วยปั๊มอากาศ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอุปกรณ์การครอบแก้วชนิดหนึ่ง เพราะส่วนล่างของแก้วจะติดตั้งแป้นยางไว้ให้สำหรับไล่อากาศออกจากแก้วจนเป็นสุญญากาศ แก้วจึงดูดติดที่ผิวหนังบริเวณที่ต้องการเพื่อระบายไอโรคออกจากรูขุมขน อันเป็นเป้าหมายของการครอบแก้ว
วิธีครอบแก้วก็มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ แก้วกะพริบ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั๊มอากาศ แต่ที่นิยมคือ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั๊มอากาศ แก้วนิ่งเป็นรูปแบบทั่วไป คือปล่อยให้แก้วครอบอยู่ที่เดิมเป็นเวลา 5-15 นาที แต่แก้ววิ่งจะเป็นการรูดแก้วไปทางด้านบน-ล่าง-ซ้าย-ขวา จนกระทั่งผิวมีสีแดงสดหรือเกิดรอยเลือดคั่ง เป็นวิธีดูแลสุขภาพสำหรับอาการชา ชาจากพิษลมชื้น ปวดจากบาดเจ็บฟกช้ำภายนอก มีไข้ เป็นต้น สุดท้าย แก้วปั๊มอากาศ เป็นรูปแบบที่สามารถปรับแรงดูดให้สอดคล้องกับอาการโรคและตำแหน่งได้ตามความต้องการ
การครอบแก้วนั้นถึงจะเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ก็มีข้อควรระวัง คือควรเลือกบริเวณที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์มีความยืดหยุ่น ไม่มีขน และโครงกระดูก รอยบุ๋มเข้าหรือนูนออก เพื่อหลีกเลี่ยงแก้วจะหลุดออก และห้ามครอบแก้วด้านซ้ายขวาลำคอซึ่งเป็นบริเวณของเส้นเลือดใหญ่ และควรดึงแก้วออกอย่างเบามือโดยใช้นิ้วกดที่กล้ามเนื้อปากแก้วให้อากาศเข้าไป แก้วก็จะหลุดออก ห้ามใช้แรงดึง หรือหมุนแก้วออก เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้