xs
xsm
sm
md
lg

ปลด “ศศิธารา” ออกจากราชการ เซ่น SP2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มติ อ.ก.พ.สกศ.เชือด “ศศิธารา” ปลดออกจากราชการ เซ่นคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวะมีผลทันทีหลัง กกต.เห็นชอบ

วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา (สสอ.) ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวง โดยมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานประชุมเพื่อหาข้อยุติในการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการ สกศ.อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรณีเอกสารจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) สูญหายและส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์
ต่อมาเมื่อเวลา 18.35 น.นายจาตุรนต์ กล่าวภายหลังการประชุมเกือบ 5 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุม อ.ก.พ.สกศ.มีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ปลด น.ส.ศศิธารา ออกจากราชการ กรณีเอกสารจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่2 (SP2) สูญหาย และส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ ในการประชุม อ.ก.พ.สกศ.มีผู้มาประชุมทั้งหมด 8 คน จาก 12 คน มีมติ 6:2 โดยเสียงข้างมาก 6 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ยืนตามผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ที่เสนอให้ปลดออกจากราชการ

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2554 น.ส.ศศิธารา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กอศ.ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินในการจัดซื้อครุภัณฑ์ของ สอศ.ให้แก่ผู้ขายตามสัญญา 12 ฉบับ จำนวนเงิน 122,468,400 บาท ขณะที่อนุมัติจ่ายเงินนั้นทีโออาร์และเอกสารที่ใช้ในการประกวดจัดซื้อครุภัณฑ์หลายรายการ ราคาสูญหาย โดยไม่มีการตรวจหาสาเหตุที่ทีโออาร์และเอกสารสูญหายเสียก่อน ตามรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงได้พบว่าก่อนการอนุมัติจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายตามสัญญาจัดซื้อครุภัณฑ์สิ่งแวดล้อม จำนวน 31,500,000 บาท เจ้าหน้าที่พัสดุและนายพันธุ์ศักดิ์ โรจนากาศ อดีตรองเลขาธิการ กอศ.ได้ทักท้วงให้ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุที่เอกสารสูญหาย โดยถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลังก่อน หากพบว่าเกิดจากการทุจริตก็จะจ่ายเงินให้ผู้ขายไม่ได้ แต่ น.ส.ศศิธารา ไม่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและอนุมัติให้จ่ายเงินไป โดยอ้างว่าต้นฉบับสัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญารวมถึงทีโออาร์ไม่ได้สูญหาย แต่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ที่มี นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำเนาทีโออาร์ที่ใช้ในการประกวดราคาซึ่งต้นฉบับได้สูญหายไป เปรียบเทียบกับทีโออาร์ที่แนบท้ายสัญญา ซึ่งใช้ในการตรวจรับครุภัณฑ์ ปรากฏว่าทีโออาร์ทั้ง 2 ฉบับไม่มีรายการ หรือรายละเอียดใดๆ เหมือนกันเลย ครุภัณฑ์ที่ได้ตรวจรับไว้ตามทีโออาร์ที่แนบท้ายสัญญา จึงไม่เป็นไปตามทีโออาร์ที่ประกาศประกวดราคา

สำหรับสถานศึกษาที่ได้รับครุภัณฑ์ชุดปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมได้แก่วิทยาลัยเทคนิค(วท.) แพร่ วท.พิจิตร วท.สระบุรี วท.สัตหีบ วท.จุฬาลงกรณ์ (ลาดขวาง) วท.หนองคาย วท.ร้อยเอ็ด และ วท.ระยอง รวม 8 แห่ง ทุกแห่งไม่ได้ใช้ประโยชน์จากครุภัณฑ์ที่ น.ส.ศศิธารา ในฐานะเลขาธิการ กอศ.ได้ทำการจัดซื้อ เนื่องจากสถานศึกษาดังกล่าวไม่ได้จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาสิ่งแวดล้อม หรือรายวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องกับครุภัณฑ์ที่จัดซื้อ โดยราคาครุภัณฑ์ที่จัดซื้อราคาชุดละ 3,937,500 บาท ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ประเมินราคาแล้วเห็นว่าเมื่อเทียบราคาท้องตลาดรวมกำไรแล้วราคาเพียงชุดละ 1,250,000 บาท กรณีดังกล่าวทำให้ทางราชการเสียหายเป็นเงินจำนวน 31,500,000 บาท
นายจาตุรนต์ ฉายแสง
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนได้เสนอความเห็นว่า การกระทำของ น.ส.ศศิธารา เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของทางราชการ และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดผลดีและไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงให้ลงโทษปลดออกจากราชการ ตามมาตรา 82(2) และ (3) ประกอบกับมาตรา 85(7) แห่ง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ซึ่ง อ.ก.พ.สำนักงานสภาการศึกษาในฐานะ อ.ก.พ.กระทรวงได้พิจารณาและมีมติให้ปลดออกจากราชการ

“หลังจากนี้จะต้องเสนอเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาก่อน มติปลดออกจึงจะมีผลอย่างเป็นทางการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือคำสั่งปลดออก เพื่อให้ กกต.พิจารณาและจะต้องหารือกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่าจะต้องนำคำสั่งปลดออกให้ ครม.พิจารณาก่อนหรือไม่ เพราะเป็นระดับ 11 และจะต้องหารือกับ สลค.ด้วยว่าจะต้องนำความกราบบังคมทูลฯหรือไม่ ทั้งนี้ น.ส.ศศิธารา มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แต่คำสั่งปลดจะมีผลล่วงหน้าไปก่อนแล้วทันทีที่ กกต.ให้ความเห็นชอบ ขณะเดียวกัน ถ้า กกต.ให้ความเห็นชอบก็สามารถแต่งตั้งระดับ 11 ทดแทน”นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ น.ส.ศศิธารา ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 2 คดี ได้แก่ เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าทำสัญญากำหนดค่าปรับในสัญญาที่แตกต่างกันบางฉบับกำหนดค่าปรับร้อยละ 0.02 บางฉบับ ร้อยละ 0.2 ทั้งที่เป็นการจัดซื้อในคราวเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง และเรื่องการมีพฤติการณ์ในการจัดซื้อครุภัณฑ์ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ครุภัณฑ์ที่จัดซื้อไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ กระบวนการจัดซื้อ เป็นต้นว่า การประกวดราคา การทำสัญญา และการตรวจรับครุภัณฑ์เป็นไปโดยมิชอบ ทั้งนี้ หากทั้ง 2 กรณีปรากฎพบว่าเป็นความผิดซึ่งมีโทษสูงกว่าคดีนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งลงโทษใหม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงาน การประชุมครั้งนี้ มีกรรมการเข้าร่วมประชุม รวม 8 คน จากทั้งหมด 12 คน โดยเป็นผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรรมการโดยตำแหน่งจากหน่วยงานภายในของ สกศ.แต่ไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วม ขณะที่การประชุมครั้งนี้ยังคงมี นายนภมณฑล สิบหมื่นเปี่ยม ทำหน้าที่เลขานุการ อ.ก.พ.สกศ.เช่นเดิม


กำลังโหลดความคิดเห็น