xs
xsm
sm
md
lg

4 คาถากันลูกหาย 4 คาถาตามลูกคืน/ คอลัมน์ พ่อแม่ลูกปลูกรัก สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัจจุบันเรื่องเด็กหายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากในบ้านเรา
ตัวเลขจากมูลนิธิกระจกเงา แถลงสถิติคนหายตั้งแต่ปี 2547-2555 พบว่า มีคนหายทั้งสิ้น 2,543 คน ซึ่งมีเด็กหายจำนวนมาก เรียกว่ามีจำนวนเด็กหาย เด็กพลัดหลง เด็กมีโอกาสถูกลักพาตัว ส่วนใหญ่มักอยู่ในกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่วัยทารก - 11 ปี เฉลี่ยสูงสุดวัย 4 ปี สถานที่ที่เด็กมีโอกาสหาย หรือพลัดหลงบ่อยคือ สถานที่ที่แออัด หรือมีผู้คนหนาแน่น ได้แก่ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด คอนเสิร์ต โรงหนัง โรงละคร สวนสนุก หรือสถานที่จัดแสดงงานทั้งหลาย

สาเหตุที่เด็กเล็กเป็นกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เพราะเป็นช่วงวัยที่ยังอ่อนแอ ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ จึงมักถูกหว่านล้อม และชักจูงง่าย
ในระยะหลังที่ผ่านมา เรามักพบเห็นการตามหาเด็กพลัดหลงในโลกสังคมออนไลน์ และมีการลงรูปเพื่อช่วยกระจายข่าวเพราะหวังว่าจะมีผู้พบเห็น มีทั้งพลัดหลง และถูกลักพาตัว ฉะนั้น ผู้ที่เป็นพ่อแม่ต้องไม่ประมาทในเรื่องนี้ และควรจะต้องมีการปลูกฝังในเรื่องความปลอดภัย หรือการป้องกันตัวเองตามวัยให้กับลูกด้วย สิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังให้ลูก มี

คาถากันลูกหาย 4 ข้อ
ข้อแรก ไม่ปล่อยลูกให้อยู่ตามลำพัง หรือคลาดสายตาเด็ดขาด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้าจำเป็นต้องไปในที่ชุมชนให้จูงมือลูกไว้ไม่ให้หลุดจากกัน เพราะกรณีเด็กหายมักเกิดจากพ่อแม่ไม่จูง โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ และอย่าคิดว่าแค่แป๊บเดียว เพราะส่วนใหญ่ที่เด็กหลงก็เพราะคำว่าแป๊บเดียวนี่แหละ
ข้อสองสอนให้ลูกรู้จักสิ่งสำคัญประจำตัวให้ได้ เช่น ชื่อจริงตัวเอง ชื่อพ่อแม่ อายุ เบอร์โทรศัพท์ บ้านเลขที่ รวมไปถึงการสอนวิธีโทรศัพท์ให้ติดต่อพ่อแม่ หรือญาติโดยให้ลูกจำเบอร์ที่บ้าน และเบอร์มือถือพ่อแม่ให้ได้ แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กอาจจะเขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์พ่อแม่ติดตัวเด็กไว้
ข้อสามต้องทำความเข้าใจกับลูกในสถานการณ์ปกติด้วยว่า ถ้ามีการพลัดหลง หรือหลงทางอย่าเคลื่อนที่ไปที่ไหน เพราะพ่อแม่จะต้องหาทางตามหาลูกให้ได้ ซึ่งจะ

กลับไปหาในสถานที่เดิมๆ ที่เพิ่งจากมา รวมไปถึงฝึกให้ลูกรู้จักการขอความช่วยเหลือ เช่น ถามพนักงานประชาสัมพันธ์ ฉะนั้นเวลาเดินทางไปที่ไหน พยายามชี้ให้ลูกเห็นถึงสัญลักษณ์ที่สำคัญ หรือพูดคุยกันล่วงหน้าให้เป็นเรื่องปกติว่า ถ้าเกิดลูกพลัดหลงควรจะไปที่ไหน แล้วจูงลูกไปดู หรือให้ไปแจ้งตำรวจ ให้ดูว่าเครื่องแบบตำรวจเป็นแบบไหน
ข้อสี่ สอนลูกไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้าเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ขนม เกม เงิน ซึ่งคนร้ายมักใช้หลอกเด็กแล้วได้ผล ถ้าอยากได้ ลูกต้องมาขออนุญาตพ่อแม่ก่อนทุกครั้ง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ลูกปลอดภัยจากการถูกลักพาตัวได้ รวมถึงต้องไม่ออกไปไหนกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด ต้องบอกให้ลูกขออนุญาตพ่อแม่ทุกครั้งเท่านั้น


แล้วทำอย่างไรเมื่อลูกพลัดหลง หรือถูกลักพาตัว มีคาถาตามลูกคืน 4 ข้อ
ข้อแรกถ้าเด็กพลัดหลง หรือหาย พ่อแม่ต้องตั้งสติให้เร็วที่สุด แล้วรีบติดตามกลับมาให้เร็วที่สุด ยิ่งตรวจสอบได้เร็ว ยิ่งมีโอกาสได้เด็กคืนเร็ว หรือช่วยเด็กได้ทัน สิ่งแรกต้องรีบตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างว่าเด็กหายตัวไปจริงหรือไม่ จากนั้นต้องไปติดตามข้อเท็จจริงว่าใครเป็นผู้พบเด็กเป็นคนสุดท้าย และพยายามรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับจุดที่พบเด็กครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เริ่มกลับไปตามหาที่จุดเดิมที่เพิ่งจากมา แล้วรีบไปแจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ประกาศตามหา ขณะเดียวกัน ก็ต้องกระจายกันหา สิ่งสำคัญ
ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ข้อสำคัญคือ ควรจำเสื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ รวมทั้งลักษณะเฉพาะของเด็ก ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่อาจจะมีจุดบางจุด เช่น สวมแว่นตา สวมรองเท้าแบบไหน ทรงผมเป็นอย่างไร ถ้ามีภาพถ่ายด้วยจะดีมาก
ข้อสอง รีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานในสถานที่นั้นๆ และใช้วิธีกระจายกันค้นหาเด็ก พร้อมทั้งให้ รปภ.ช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ของสถานที่นั้นๆ ช่วยประกาศเด็กหายในทุกพื้นที่ที่สามารถประสานการช่วยเหลือได้ หรือรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีที่ค่อนข้างแน่ใจว่าลูกหายแน่แล้ว เพราะเร็วเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น
ข้อสาม สามารถหาตัวช่วยในโลกสังคมออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต ฟอร์เวิร์ดเมล์ เฟซบุ๊ก เว็บบอร์ดที่มีคนเข้ามากๆ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางของการติดต่อขอความช่วยเหลือ โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก ภาพ รูปร่างหน้าตา สถานที่ วันเวลาที่เด็กหายตัวไป พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อให้ครบถ้วน เมื่อมีคนหมู่มากในสังคมเห็น ก็จะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาได้ด้วย และเชื่อไหมคะว่าในสังคมออนไลน์สามารถนำไปสู่การตามเด็กคืนมาได้แล้วด้วย
ข้อสี่ เป็นไปได้รีบแจ้งสื่อมวลชนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะสถานีวิทยุจะมีส่วนช่วยเหลือได้มาก โดยเฉพาะคลื่นใหญ่ที่มีคนฟังจำนวนมาก เช่น ส.ว.พ. (91 MHz), คลื่นร่วมด้วยช่วยกัน 96 MHz, จ.ส.ร้อย (100 MHz) ที่ผ่านมาสามารถตามคนหายผ่านทางสถานีวิทยุเหล่านี้ได้ไม่น้อย หรือพยายามใช้สื่อทุกรูปแบบ ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ฯลฯ หากมีภาพเด็กแล้ว ต้องเผยแพร่โดยเร็วที่สุด หรืออาจขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเฉพาะซึ่งมีอยู่หลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ, มูลนิธิกระจกเงา, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เป็นต้น เพื่อทั้งคนในสังคมจะได้ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา และอาจทำให้คนร้ายเห็น จะได้ช่วยกดดันให้คนร้ายหลบหนีลำบาก จนต้องนำเด็กมาคืน

ข้อแนะนำต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถกระทำได้ง่ายๆ เพียงแต่ต้องเอาจริงเอาจัง และใจใส่กับ 4 คาถากันลูกหาย จะได้ไม่ต้องมาใช้ 4 คาถาตามลูกคืนไงคะ


กำลังโหลดความคิดเห็น