หลายคนคงรู้ว่ามีเด็กผู้หญิงมากมายที่เติบโตมาพร้อมกับการได้รับความอยุติธรรมในสังคม ทั้งการถูกทารุณกรรม ถูกทำร้ายทั้งกายและใจ ถูกกดขี่ย่ำยีสารพัดอย่าง สิ่งเหล่านี้อาจเกิดได้จากหลายเหตุผล เช่นบางคนเกิดมาในครอบครัวที่นิยมความรุนแรง หรือบางคนตกเป็นเหยื่อจากการถูกล่อลวงไป ดังนั้น สิ่งที่พ่อแม่จะทำเพื่อลูกสาวได้ นอกจากการเลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดด้วยความรักและความหวงแหนแล้ว การอบรมสั่งสอนลูกและให้ลูกมีความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเอง เป็นสิ่งที่ดีมากที่จะทำให้ลูกพ้นจากภยันตรายรอบกายได้
ผู้เขียนจึงอยากแบ่งปันถึง4เรื่องสำคัญ...ที่ต้องสอนเด็กผู้หญิง ดังนี้
1.สอนให้เด็กผู้หญิงพึ่งพาตนเองไดั สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะให้เด็กผู้หญิงหรือผู้หญิงทุกคนรู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ผู้เขียนเห็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกผู้หญิงสมัยนี้มักเลี้ยงลูกยิ่งกว่าไข่ในหิน โดยไม่ใหัทำอะไรเองหรือหยิบจับอะไรไม่เป็น จึงทำให้เด็กต้องพึ่งพาแต่คนอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เด็กผู้หญิงรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัย เช่น สามารถทำงานบ้านได้ ไม่ว่าจะซักผ้าให้เป็น หุงหาอาหารให้ได้ เวลาไปอยู่ที่ไหนจะได้อยู่อย่างเอาตัวรอดได้ ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า มีเด็กผู้หญิงอายุ6ขวบ2คน ไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียนแล้วหลงทางในป่าประมาณ 7 วันกว่าจะมีคนตามหาตัวเจอ ปรากฏว่ามารู้ทีหลังว่าเด็กผู้หญิง 2 คนนี้ คนหนึ่งเอาแต่ร้องไห้เพราะกลัว แต่เด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งคอยมองหาแหล่งน้ำและของกินจนสามารถเก็บกล้วยป่ามาแบ่งกินกับเพื่อน จึงทำให้ทั้ง 2 รอดชีวิตจากการอยู่ในป่าได้ถึง 7 วัน ภายหลังเมื่อมาศึกษาประวัติของเด็กผู้หญิง 2 คนนี้ จึงพบว่าเด็กผู้หญิงที่เอาแต่ร้องไห้เพราะความกลัวมาจากครอบครัวที่เลี้ยงดูมาแบบพ่อแม่ทำให้ทุกอย่างไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ในการช่วยเหลือตนเองเลย ตรงกันข้ามกับเด็กผู้หญิงที่ไปหาผลไม้มาแบ่งให้เพื่อนกินนั้น มาจากครอบครัวที่พ่อแม่สอนให้รู้จักทำงานบ้าน เข้าครัว และช่วยเหลือตนเองได้ตามความสามารถของวัย จึงเห็นได้ว่าการสอนใหัเด็กทำงานบ้านเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของการดำรงชีวิต อีกทั้งช่วยให้เด็กรู้จักการทำอะไรได้ด้วยตัวเองและรู้จักแก้ปัญหาต่างๆ
2.สอนให้เป็นเด็กผู้หญิงที่มีมารยาทดี เป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียวในการสอนเด็กผู้หญิงให้มีกิริยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อยทั้งคำพูดและการแสดงออก เพราะคงไม่มีใครชอบเด็กผู้หญิงที่มีท่าทางก๋ากั่น พูดจาหยาบคาย มึงมาพาโวย ผู้เขียนมักเห็นเด็กผู้หญิงสมัยนี้ที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่พอเอ่ยปากพูดออกมาเท่านั้น ถึงขนาดที่ต้องเมินหน้าหนีทันที เพราะมีแต่คำหยาบคายสารพัดและพูดแทนตนเองกับเพื่อนว่ากู-มึงหลุดออกจากปากตลอดเวลา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พ่อแม่ต้องสอนกับลูกสาวอย่างเอาจริงเอาจังตั้งแต่เล็กๆในการที่จะไม่พูดคำหยาบคาย และฝึกให้ลูกพูดจาสุภาพ มีหางเสียง ค่ะ ครับ การรู้จัก ขอบคุณ ขอโทษ จนติดเป็นนิสัย อีกทั้งแสดงกิริยาที่สุภาพต่อผู้ใหญ่ เช่น การยกมือไหว้ผู้ใหญ่ การเดินก้มตัวเวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น และอบรมปลูกฝังให้กับลูกตั้งแต่เขายังเล็กๆให้ติดเป็นนิสัยไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ การสอนให้ลูกเป็นเด็กมีมารยาทที่ดี จะทำให้มีแต่คนเอ็นดูและอยากจะดูแลปกป้อง ซึ่งจะเป็นเกราะที่ดีให้แก่ลูกได้
3.สอนให้เด็กผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ปัจจุบันมีการกระทำชำเราเด็กเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่เด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกสาวระมัดระวังในการแต่งกาย โดยเฉพาะในเด็กในวัยที่เริ่มโตยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยดูแลให้ลูกแต่งกายให้เรียบร้อย ไม่สนับสนุนให้ลูกแต่งตัวโป๊ เช่นอย่าให้ลูกใส่กระโปรง/กางเกงสั้นจุ๊ดจู๋ ใส่เสื้อสายเดี่ยวรัดรูป หรือบางมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ตกเป็นเป้าสายตาหรือตกเป็นเหยื่อของพวกโรคจิตหื่นกามได้ อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกสาววัยรุ่นที่ยังอยู่ในวัยเรียนว่าไม่ควรออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนต่างเพศสองต่อสอง และไม่ควรปล่อยให้ลูกกลับดึกๆดื่นๆจนติดเป็นนิสัย ในฐานะของพ่อแม่ที่ดีควรอบรมสั่งสอนให้ลูกสาวมีนิสัยที่รักนวลสงวนตัว เพื่อที่จะเป็นเด็กที่ใครเห็นก็เกิดความชื่นชม อยากปกป้องดูแลให้ ดีกว่าใครเห็นลูกสาวของคุณแล้วพูดกันว่า ลูกสาวบ้านนี้แค่เห็นแต่งตัวก็ไม่ไหวแล้ว อย่าไปยุ่งอะไรด้วยเลย
4.สอนให้เด็กผู้หญิงเรียนรู้และระวังอันตรายที่อยู่รอบตัว จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ในคดีลักพาตัวเด็กไปกระทำชำเราแล้วฆ่าทิ้ง นับเป็นคดีที่สะเทือนขวัญของสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกสาวรู้จักระมัดระวังตัว โดยสอนลูกไม่ให้ไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้า อีกทั้งไม่รับขนมหรือของเล่นจากคนอื่น นอกจากนี้ อย่าปล่อยให้ลูกสาวที่ยังเล็กอยู่บ้านคนเดียวหรือออกไปไหนคนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดอันตรายขึ้นกับลูกแล้ว คนที่จะต้องเสียใจมากที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง
4 เรื่องสำคัญที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยในการที่จะอบรมปลูกฝังให้กับลูกผู้หญิง เพื่อที่เขาจะเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่ดี มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยน่ารัก เป็นที่เอ็นดูชื่นชมของทุกคนที่พบเห็น สามารถพึ่งพาตนเองได้และดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย
ผู้เขียนจึงอยากแบ่งปันถึง4เรื่องสำคัญ...ที่ต้องสอนเด็กผู้หญิง ดังนี้
1.สอนให้เด็กผู้หญิงพึ่งพาตนเองไดั สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะให้เด็กผู้หญิงหรือผู้หญิงทุกคนรู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ผู้เขียนเห็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกผู้หญิงสมัยนี้มักเลี้ยงลูกยิ่งกว่าไข่ในหิน โดยไม่ใหัทำอะไรเองหรือหยิบจับอะไรไม่เป็น จึงทำให้เด็กต้องพึ่งพาแต่คนอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เด็กผู้หญิงรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัย เช่น สามารถทำงานบ้านได้ ไม่ว่าจะซักผ้าให้เป็น หุงหาอาหารให้ได้ เวลาไปอยู่ที่ไหนจะได้อยู่อย่างเอาตัวรอดได้ ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า มีเด็กผู้หญิงอายุ6ขวบ2คน ไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียนแล้วหลงทางในป่าประมาณ 7 วันกว่าจะมีคนตามหาตัวเจอ ปรากฏว่ามารู้ทีหลังว่าเด็กผู้หญิง 2 คนนี้ คนหนึ่งเอาแต่ร้องไห้เพราะกลัว แต่เด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งคอยมองหาแหล่งน้ำและของกินจนสามารถเก็บกล้วยป่ามาแบ่งกินกับเพื่อน จึงทำให้ทั้ง 2 รอดชีวิตจากการอยู่ในป่าได้ถึง 7 วัน ภายหลังเมื่อมาศึกษาประวัติของเด็กผู้หญิง 2 คนนี้ จึงพบว่าเด็กผู้หญิงที่เอาแต่ร้องไห้เพราะความกลัวมาจากครอบครัวที่เลี้ยงดูมาแบบพ่อแม่ทำให้ทุกอย่างไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ในการช่วยเหลือตนเองเลย ตรงกันข้ามกับเด็กผู้หญิงที่ไปหาผลไม้มาแบ่งให้เพื่อนกินนั้น มาจากครอบครัวที่พ่อแม่สอนให้รู้จักทำงานบ้าน เข้าครัว และช่วยเหลือตนเองได้ตามความสามารถของวัย จึงเห็นได้ว่าการสอนใหัเด็กทำงานบ้านเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของการดำรงชีวิต อีกทั้งช่วยให้เด็กรู้จักการทำอะไรได้ด้วยตัวเองและรู้จักแก้ปัญหาต่างๆ
2.สอนให้เป็นเด็กผู้หญิงที่มีมารยาทดี เป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียวในการสอนเด็กผู้หญิงให้มีกิริยามารยาทที่สุภาพเรียบร้อยทั้งคำพูดและการแสดงออก เพราะคงไม่มีใครชอบเด็กผู้หญิงที่มีท่าทางก๋ากั่น พูดจาหยาบคาย มึงมาพาโวย ผู้เขียนมักเห็นเด็กผู้หญิงสมัยนี้ที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่พอเอ่ยปากพูดออกมาเท่านั้น ถึงขนาดที่ต้องเมินหน้าหนีทันที เพราะมีแต่คำหยาบคายสารพัดและพูดแทนตนเองกับเพื่อนว่ากู-มึงหลุดออกจากปากตลอดเวลา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พ่อแม่ต้องสอนกับลูกสาวอย่างเอาจริงเอาจังตั้งแต่เล็กๆในการที่จะไม่พูดคำหยาบคาย และฝึกให้ลูกพูดจาสุภาพ มีหางเสียง ค่ะ ครับ การรู้จัก ขอบคุณ ขอโทษ จนติดเป็นนิสัย อีกทั้งแสดงกิริยาที่สุภาพต่อผู้ใหญ่ เช่น การยกมือไหว้ผู้ใหญ่ การเดินก้มตัวเวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น และอบรมปลูกฝังให้กับลูกตั้งแต่เขายังเล็กๆให้ติดเป็นนิสัยไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ การสอนให้ลูกเป็นเด็กมีมารยาทที่ดี จะทำให้มีแต่คนเอ็นดูและอยากจะดูแลปกป้อง ซึ่งจะเป็นเกราะที่ดีให้แก่ลูกได้
3.สอนให้เด็กผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ปัจจุบันมีการกระทำชำเราเด็กเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่เด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกสาวระมัดระวังในการแต่งกาย โดยเฉพาะในเด็กในวัยที่เริ่มโตยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยดูแลให้ลูกแต่งกายให้เรียบร้อย ไม่สนับสนุนให้ลูกแต่งตัวโป๊ เช่นอย่าให้ลูกใส่กระโปรง/กางเกงสั้นจุ๊ดจู๋ ใส่เสื้อสายเดี่ยวรัดรูป หรือบางมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ตกเป็นเป้าสายตาหรือตกเป็นเหยื่อของพวกโรคจิตหื่นกามได้ อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกสาววัยรุ่นที่ยังอยู่ในวัยเรียนว่าไม่ควรออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนต่างเพศสองต่อสอง และไม่ควรปล่อยให้ลูกกลับดึกๆดื่นๆจนติดเป็นนิสัย ในฐานะของพ่อแม่ที่ดีควรอบรมสั่งสอนให้ลูกสาวมีนิสัยที่รักนวลสงวนตัว เพื่อที่จะเป็นเด็กที่ใครเห็นก็เกิดความชื่นชม อยากปกป้องดูแลให้ ดีกว่าใครเห็นลูกสาวของคุณแล้วพูดกันว่า ลูกสาวบ้านนี้แค่เห็นแต่งตัวก็ไม่ไหวแล้ว อย่าไปยุ่งอะไรด้วยเลย
4.สอนให้เด็กผู้หญิงเรียนรู้และระวังอันตรายที่อยู่รอบตัว จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ในคดีลักพาตัวเด็กไปกระทำชำเราแล้วฆ่าทิ้ง นับเป็นคดีที่สะเทือนขวัญของสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกสาวรู้จักระมัดระวังตัว โดยสอนลูกไม่ให้ไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้า อีกทั้งไม่รับขนมหรือของเล่นจากคนอื่น นอกจากนี้ อย่าปล่อยให้ลูกสาวที่ยังเล็กอยู่บ้านคนเดียวหรือออกไปไหนคนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดอันตรายขึ้นกับลูกแล้ว คนที่จะต้องเสียใจมากที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง
4 เรื่องสำคัญที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลยในการที่จะอบรมปลูกฝังให้กับลูกผู้หญิง เพื่อที่เขาจะเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่ดี มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อยน่ารัก เป็นที่เอ็นดูชื่นชมของทุกคนที่พบเห็น สามารถพึ่งพาตนเองได้และดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย
