อาจารย์ ม.เกษตรฯ ชี้ปุ๋ยเป็นหัวเชื้อทำให้เกิดการระเบิดได้ จี้ รปภ.สนามบินเข้มงวดมากกว่านี้ ระบุหัวเชื้อปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ปุ๋ยแคลเซียมแอมโมเนียมไนเตรต และปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรต ใช้ทำวัตถุระเบิดได้
วันนี้ (28 ม.ค.) รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบัน อุดมศึกษาของรัฐ กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุกระเป๋าผู้โดยสารเกิดไฟลุกไหม้ที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กลับระบุว่าไม่ใช่วัตถุระเบิด แต่เป็นตัวอย่างปุ๋ยที่อาจทำปฏิกิริยาเคมีจนเกิดไฟลุกไหม้ ว่า แม้ปุ๋ยไม่ได้ระบุว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายห้ามครอบครอง แต่หลายอย่างสามารถทำให้เกิดการระเบิด หรือเป็นสารตั้งต้นในการทำระเบิดได้ จึงอยากให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในเรื่องของสารเคมีที่จะนำขึ้นเครื่องให้มากกว่านี้ เนื่องจากข้อมูลพบว่าหัวเชื้อของปุ๋ยยูเรีย (urea) ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (ammonium sulfate) ปุ๋ยแคลเซียมแอมโมเนียมไนเตรต (calcium ammonium nitrate) และปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรต (ammonium nitrate) สามารถใช้ทำวัตถุระเบิดได้ ส่วนปุ๋ยยูเรียไม่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิดได้โดยตรง แต่ต้องดัดแปลง ประเด็นคือ ปุ๋ยดังกล่าวสามารถครอบครองได้ แต่สารเคมีสำหรับทำวัตถุระเบิดตัวอื่นๆ มีกฎหมายห้ามครอบครอง เช่น สารไตรไนโตรโทลูอีน (trinitrotoluene) ทางที่ดีที่สุด สายการบิน ควรเข้มงวดในเรื่องของสารเคมีที่จะนำขึ้นเครื่อง แม้แต่แป้ง ผงโปรตีน หรือครีมเทียมที่ใส่กาแฟ ก็สามารถดัดแปลงทำระเบิดได้