สพฐ.ขีดเส้นตายให้ “เสิ่นเจิ้น อิงถัง-จัสมินฯ” ส่งแผนจัดส่งแท็บเล็ตภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ชี้หากปล่อยยืดเยื้อจนถึงวันที่ 20 ก.พ.ครบระยะการปรับไม่เกิน 10% วงเงินงบประมาณ สพฐ.จะยกเลิกสัญญาทันทีทั้งยึดทรัพย์และเปิดประมูลใหม่ ขณะที่ บ.สุพรีมฯ ทำหนังสือยื่นอุทธรณ์ส่งมายัง “จาตุรนต์” แล้วส่งไม้ต่อให้ สพฐ.ไปพิจารณาและนำกลับเข้าที่ประชุมบอร์ดบริหารแท็บเล็ตนัดต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต (พกพา) ต่อ 1 นักเรียน มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ชนะการประมูลแท็บเล็ต โซน 3 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1(ภาคกลางและภาคใต้) ให้ยื่นอุทธรณ์มายัง สพฐ.ตามคำแนะนำของคณะกรรมการว่าด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) เนื่องจากคำสั่งยกเลิกเป็นคำสั่งทางปกครอง จึงต้องยื่นที่สำนักงาน คือ สพฐ.โดยกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน โดย สพฐ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.สุพรีมฯ ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดให้ต้องยื่นอุทธรณ์กลับมาภายใน 30 วันนับแต่วันออกหนังสือ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง บ.สุพรีมฯ ได้ทำหนังสืออุทธรณ์ส่งมายัง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานบอร์ดบริหารนโยบายฯ โดยหนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวระบุว่ามติการยกเลิกการประมูลในโซน 3 นั้นไม่เป็นธรรม จึงขอให้พิจารณายกเลิกมติดังกล่าวและอนุมัติให้ บ.สุพรีมฯ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลดำเนินการต่อ ทั้งนี้ รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ทาง สพฐ.ไปพิจารณาผลการอุทธรณ์ดังกล่าวและนำเข้าหารืออีกครั้งในการประชุมบอร์ดบริหารนโยบายครั้งต่อไป
แหล่งข่าวจาก ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง บ.เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โซนที่ 1 ประถมศึกษาปีที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) และ โซนที่ 2 ป.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และ บ.จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ ผู้ชนะการประมูลโซนที่ 4 ชั้น ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เพื่อให้เร่งจัดทำแผนการส่งมอบแท็บเล็ตและส่งมาให้ สพฐ.พิจารณาภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทก็เข้าสู่กระบวนการปรับรายวันตามเงื่อนไขในสัญญา เนื่องจากมีปัญหาในการจัดส่งแท็บเล็ตล่าช้า โดย บ.เสิ่นเจิ้นฯ ปรับวันละ 2.2 ล้านบาท และ บ.จัสมินฯ 1.5 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดจ่ายเงินค่าปรับเลยแต่ถ้าสองบริษัทมีการส่งมอบของตามแผน สพฐ.ก็จะหักเงินในการรับสินค้าตามจำนวนค่าปรับที่คำนวณไว้ อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 2 บริษัทไม่ส่งแผนดังกล่าวตามกำหนดระยะเวลา ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง ได้กำหนดให้ปรับไม่เกิน 10% ของวงเงินงบประมาณ หรือวงเงิน 120 ล้านบาทของมูลค่าสินค้า ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีผลให้ สพฐ.ยกเลิกสัญญาทันที และเข้าสู่กระบวนการยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินเฉลี่ยโซนละ 60 ล้านบาท และหากไปสู่จุดการยกเลิกสัญญาก็ต้องมาเข้าสู่การเปิดประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน ใหม่ ซึ่งถ้าบริษัทอื่นสามารถประมูลได้ในวงเงินประมูลมากกว่าเดิม ทั้งสองบริษัทต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่หายไปด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต (พกพา) ต่อ 1 นักเรียน มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ชนะการประมูลแท็บเล็ต โซน 3 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1(ภาคกลางและภาคใต้) ให้ยื่นอุทธรณ์มายัง สพฐ.ตามคำแนะนำของคณะกรรมการว่าด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) เนื่องจากคำสั่งยกเลิกเป็นคำสั่งทางปกครอง จึงต้องยื่นที่สำนักงาน คือ สพฐ.โดยกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน โดย สพฐ.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.สุพรีมฯ ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดให้ต้องยื่นอุทธรณ์กลับมาภายใน 30 วันนับแต่วันออกหนังสือ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง บ.สุพรีมฯ ได้ทำหนังสืออุทธรณ์ส่งมายัง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานบอร์ดบริหารนโยบายฯ โดยหนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวระบุว่ามติการยกเลิกการประมูลในโซน 3 นั้นไม่เป็นธรรม จึงขอให้พิจารณายกเลิกมติดังกล่าวและอนุมัติให้ บ.สุพรีมฯ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลดำเนินการต่อ ทั้งนี้ รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบให้ทาง สพฐ.ไปพิจารณาผลการอุทธรณ์ดังกล่าวและนำเข้าหารืออีกครั้งในการประชุมบอร์ดบริหารนโยบายครั้งต่อไป
แหล่งข่าวจาก ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง บ.เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โซนที่ 1 ประถมศึกษาปีที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) และ โซนที่ 2 ป.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และ บ.จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ ผู้ชนะการประมูลโซนที่ 4 ชั้น ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เพื่อให้เร่งจัดทำแผนการส่งมอบแท็บเล็ตและส่งมาให้ สพฐ.พิจารณาภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทก็เข้าสู่กระบวนการปรับรายวันตามเงื่อนไขในสัญญา เนื่องจากมีปัญหาในการจัดส่งแท็บเล็ตล่าช้า โดย บ.เสิ่นเจิ้นฯ ปรับวันละ 2.2 ล้านบาท และ บ.จัสมินฯ 1.5 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดจ่ายเงินค่าปรับเลยแต่ถ้าสองบริษัทมีการส่งมอบของตามแผน สพฐ.ก็จะหักเงินในการรับสินค้าตามจำนวนค่าปรับที่คำนวณไว้ อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 2 บริษัทไม่ส่งแผนดังกล่าวตามกำหนดระยะเวลา ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง ได้กำหนดให้ปรับไม่เกิน 10% ของวงเงินงบประมาณ หรือวงเงิน 120 ล้านบาทของมูลค่าสินค้า ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีผลให้ สพฐ.ยกเลิกสัญญาทันที และเข้าสู่กระบวนการยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินเฉลี่ยโซนละ 60 ล้านบาท และหากไปสู่จุดการยกเลิกสัญญาก็ต้องมาเข้าสู่การเปิดประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน ใหม่ ซึ่งถ้าบริษัทอื่นสามารถประมูลได้ในวงเงินประมูลมากกว่าเดิม ทั้งสองบริษัทต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่หายไปด้วย