xs
xsm
sm
md
lg

จ่อเรียกค่าเสียหาย “เสิ่นเจิ้น อิงถังฯ” 800 ล.บาท ชี้ซื้อแท็บเล็ต ป.1 ทดแทนไม่ครบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศธ.จ่อเรียกค่าเสียหาย “เสิ่นเจิ้น อิงถังฯ” 800 ล.บาท หลังฉีกสัญญาทำให้แจกแท็บเล็ต ป.1 กว่า 8 แสนเครื่องไม่ได้ ขณะที่ สพฐ.เตรียมชง 3 แนวทางซื้อแท็บเล็ตทดแทน โดยใช้สเปกเดิม และซื้อแบบอี-ออกชัน ใช้เวลาเพียง 150 วันแท็บเล็ตถึง ร.ร. หรือแก้ไขสเปกแต่ต้องเสียเวลาอีก 1 ปี หรือกระจายงบให้ สพป.ไปดำเนินการเอง ชี้ซื้อครั้งใหม่เด็ก ป.1 ได้แท็บเล็ตไม่ครบทุกคน เหตุ บ.เสิ่นเจิ้น อิงถังฯ ทุบราคาไว้ต่ำมาก และก่อนหน้าได้ขอกันงบประมาณไว้ตามจำนวน แจง สพฐ.ต้องแจ้งสำนักงบฯ ใหม่เพื่อขอขยายเวลากันงบไปอีก 6 เดือน จากที่สิ้นสุดเดือน มี.ค.เป็นเดือน ก.ย.

วันนี้ (6 ก.พ.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 กรณีบริษัทเสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ที่ชนะการประมูลจัดซื้อแท็บเล็ตชั้น ป.1 โซน 1 (ภาคกลาง และภาคใต้) จำนวน 431,105 เครื่อง มูลค่า 842 ล้านบาท และโซน 2 (ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) 373,637 เครื่อง เป็นเงิน 786 ล้านบาท วงเงินรวม 1,628 ล้านบาท ได้ทำหนังสือแจ้งขอยกเลิกสัญญาซื้อขายแท็บเล็ตโดยให้เหตุผลถึงความแน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ความเข้าใจต่อทีโออาร์ (TOR) และสัญญาไม่ตรงกัน รวมถึงการติดต่อสื่อสารมีปัญหาอุปสรรคจ นกระทั่งบริษัทส่งมอบของล่าช้า และถูกเรียกค่าปรับ จนทำให้ไม่สามารถจัดส่งแท็บเล็ตได้นั้น ว่า แม้ว่าจะเกิดปัญหาแต่ ศธ.ยืนยันว่าจะเดินหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนต่อไป เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะปัญหาเกิดจากกระบวนการจัดซื้อก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหากันต่อไป โดยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายฯ ก็จะได้พิจารณา และข้อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งตนขอยืนยันว่า นโยบายการจัดซื้อแท็บเล็ตของรัฐบาลไม่มีการทุจริตอย่างแน่นอน

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารนโยบายฯ กล่าวว่า ในการประชุมจะหารือถึงประเด็นการยกเลิกสัญญาการจัดซื้อแท็บเล็ต โซน 1 และ 2 ซึ่งที่ประชุมจะมีการเรียกเงินมัดจำคืน จำนวน 120 ล้านบาท พร้อมให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อบริษัทเสิ่นเจิ้น อิงถังฯ ประมาณ 800 ล้านบาทด้วย ส่วนการแก้ปัญหาการจัดซื้อแท็บเล็ต ปี 2556 ในโซนที่มีปัญหานั้น คาดว่าจะจัดสรรเงินให้แก่เขตพื้นที่การศึกษาไปจัดซื้อเอง หรือเปิดซองประมูลกันใหม่ สำหรับโซน 3 (ภาคกลาง และภาคใต้) ที่บริษัทสุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ทำหนังสือยื่นอุทธรณ์มายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยขณะนี้ สพฐ. ได้นำหนังสืออุทธรณ์ของบริษัทสุพรีมฯ มาให้นายจาตุรนต์ พิจารณาแล้ว และทราบว่าจะให้บริษัทสุพรีมฯ ได้ดำเนินการต่อตามขั้นตอนโดยไม่มีการยกเลิกประมูล ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดซื้อแท็บเล็ตโซน 4 (ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 402,889 เครื่อง ไม่ได้มีปัญหา และจะมีการหารือถึงการจัดส่งแท็บเล็ตในโซนนี้ต่อไป

ขณะที่ แหล่งข่าวจาก สพฐ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา บ.จัสมินฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งมายัง สพฐ.โดยระบุว่า ทางบริษัทพร้อมจะจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตให้ สพฐ.เบื้องต้นจำนวนกว่า 18,000 เครื่อง ซึ่งขณะนี้แท็บเล็ตจำนวนดังกล่าวอยู่ในโกดังของ บ.จัสมินฯ แล้ว รอแค่ทาง สพฐ.เข้าไปตรวจรับ และก่อนหน้านี้ บ.จัสมินฯ ได้จัดส่งให้เครื่องแท็บเล็ตให้แก่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ไปแล้ว ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายฯ จะมีการเสนอแนวทางการจัดซื้อแท็บเล็ตทดแทนในโซน 1 และ 2 ใหม่ ซึ่ง สพฐ.อาจจะเสนอเป็น 3 แนวทาง ดังนี้ แนวทางแรก ให้จัดซื้อตามเดิมโดยไม่มีการแก้ไขสเปก และใช้วิธีประมูลผ่านระบบอี-ออกชัน ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลาไม่นานนัก คาดว่าประมาณ 150 วัน โรงเรียนจะได้รับแท็บเล็ต แนวทางที่ 2 อาจจะมีการแก้ไขสเปก ซึ่งหากมีการแก้ไขจะต้องใช้เวลาดำเนินการ และจัดซื้อทั้งหมดประมาณ 1 ปี และแนวทางที่ 3 กระจายงบประมาณโซน 1 และ 2 ที่เหลือทั้งหมดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เป็นผู้จัดซื้อ

อย่างไรก็ตาม สพฐ.จะต้องเสนอไปยังสำนักงบประมาณขอขยายในการงบประมาณแท็บเล็ต เพราะการขอขยายเวลากันงบประมาณรอบที่ผ่านมาจะครบกำหนดในเดือนมีนาคม 2557 จึงต้องขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนกันยายน 2557 อีกทั้งนักเรียน ป.1 จะไม่ได้รับแท็บเล็ตครบทั้ง 100% ตามเดิม เพราะ บ.เสิ่นเจิ้น อิงถังฯ ได้ทุบราคาการประมูลจนได้ราคาจัดซื้อที่ราคา 1,900 บาทต่อเครื่อง จากราคากลาง 2,800 บาทต่อเครื่อง ซึ่งงบประมาณที่เหลืออยู่ก็จะเป็นงบประมาณตามราคาที่ บ.เสิ่นเจิ้น อิงถังฯ ประมูลไว้
 



กำลังโหลดความคิดเห็น