xs
xsm
sm
md
lg

วิจัยชี้โปรแกรมเชิงรุกช่วยสิงห์อมควันลดการสูบบุหรี่ได้ต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิจัยโปรแกรมเลิกบุหรี่พบ โปรแกรมเชิงรับที่ให้แค่คำปรึกษาช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ทันทีสูงกว่าเชิงรุกที่ให้ทั้งความรู้ภาคทฤษฎีและจัดกิจกรรม แต่ผลในระยะยาวสู้โปรแกรมเชิงรุกไม่ได้ ต้องกลับไปอมควันเช่นเดิม ชัดเจนโปรแกรมเชิงรุกให้ผลดีกว่าอย่างต่อเนื่อง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
นางรัตติยา เพชรน้อย นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงผลการวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อการเลิกบุหรี่ของผู้เข้าคลินิกอดบุหรี่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ซึ่งสนับสนุนโดย ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า คณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษาเพื่อประเมินโปรแกรมการเลิกบุหรี่ในกลุ่มผู้ที่เข้าคลินิกเลิกบุหรี่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเปรียบเทียบระหว่างโปรแกรมเชิงรับและเชิงรุก รวมทั้งหาอุปสรรคที่ทำให้การเลิกบุหรี่ทำไม่สำเร็จ โดยศึกษาจากผู้ที่เข้ารับบริการเลิกบุหรี่ในคลินิกเลิกบุหรี่ 20 แห่งในโรงพยาบาลพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 350 คน และศึกษาเชิงลึกในคลินิก 5 แห่งอีก 20 คน แบ่งเป็นกลุ่มโปรแกรมเชิงรุกที่ได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน และกลุ่มโปรแกรมเชิงรับที่ได้รับคำปรึกษาในระยะเวลา 3 วัน วันละ 45 นาที - 1 ชั่วโมง

นางรัตติยา กล่าวว่า จากการประเมินพบว่า ทั้งคลินิกเชิงรุกและคลินิกเชิงรับ มีผู้เข้ารับบริการ ร้อยละ 56.1 และ 54.1 เห็นคุณค่าของตนเองในระดับปานกลาง โดยผู้เข้ารับบริการเชิงรุกได้รับการสนับสนุนของครอบครัวในการเลิกสูบบุหรี่ในระดับสูงร้อยละ 63.0 และผู้เข้ารับบริการเชิงรับได้รับการสนับสนุนร้อยละ 62.3 โดยผลการเลิกบุหรี่ในคลินิกเชิงรุก ผู้ที่สามารถเลิกบุหรี่ได้ทันที ร้อยละ 58.1, เลิกบุหรี่ได้ในระยะ 3 เดือน ร้อยละ 58.1 เลิกได้ใน 6 เดือน ร้อยละ 60.9 เลิกได้ใน 12 เดือนร้อยละ 61.2 และใน 1 ปีครึ่ง ร้อยละ 55.0 ส่วนคลินิกเชิงรับผู้เข้ารับบริการสามารถเลิกบุหรี่ได้ทันทีร้อยละ 70.5, ในระยะ 3 เดือน ร้อยละ 62.3, ใน 6 เดือน ร้อยละ 52.5, ใน 12 เดือน ร้อยละ 55.7 และ ใน 1 ปีครึ่ง ร้อยละ 32.8 เมื่อเปรียบเทียบกันพบว่า อัตราการเลิกบุหรี่ในช่วงสิ้นสุดโครงการทันที หลังสิ้นสุดโครงการ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน ไม่มีความแตกต่างกันนัก แต่ผลการเลิกบุหรี่ในช่วง 1 ปีครึ่งนั้นโปรแกรมเชิงรุกให้ผลการเลิกสูบบุหรี่ได้มากกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ

น.ส.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการ ศจย.กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้เข้ารับบริการไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จคือ สิ่งแวดล้อมที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นตัวกระตุ้น เมื่อเห็นคนอื่นสูบแล้วอยากสูบบ้าง เมื่อพิจารณาจากหลายๆ งานวิจัยที่ไปสร้างมาตรการในชุมชนด้วยแล้วพบว่า ยังมีกิจกรรมต้องเพิ่มเพื่อให้โปรแกรมเลิกสูบบุหรี่มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น เช่น การสร้างมาตรการระดับหมู่บ้าน และตำบล เพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม และการเสริมแรงทางบวกเมื่อมีต้นแบบที่เลิกบุหรี่ได้สำเร็จเช่นการยกย่องชมเชยและการแสดงสัญลักษณ์บ้านปลอดบุหรี่ เป็นต้นเพื่อให้เกิดการเลิกบุหรี่โดยสมัครใจเพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น