“หมอประกิต” แฉบริษัทบุหรี่วิ่งเต้นล็อบบีสมาชิกสภาแห่งสหภาพยุโรป หวังล้มกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ล่าสุดต้องเลื่อนการลงมติออกไปอีก ชี้กลยุทธ์ไม่ต่างจากไทยในการพยายามล้มกฎหมายเพิ่มขนาดภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ของไทย
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า สมาชิกสภาแห่งสหภาพยุโรปได้มีการพิจารณาร่างนโยบายควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ (Tobacco Products Directive) แทนฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งล้าสมัย เนื่องจากวิธีการตลาดของบริษัทยาสูบเปลี่ยนแปลงไปมาก รวมทั้งมีการนำแนวทางปฏิบัติในการควบคุมยาสูบภายใต้อนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลก มาบรรจุในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย อาทิ การพิมพ์ภาพคำเตือนขนาดใหญ่ การออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบห้ามขายบุหรี่มวนเล็ก และบุหรี่ที่เติมสารเพิ่มความเย้ายวนหรืออำนาจการเสพติด เช่น เมนทอล รสผลไม้ ช็อกโกแลต เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทบุหรี่ก็แสดงท่าทีต้องการให้ชะลอการลงมติออกกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ร่างกฎหมายใหม่ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2556 ต้องเลื่อนการลงมติออกไปจาก ก.ย.ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม
“การเลื่อนการลงมติออกไป ทำให้ฝ่ายสุขภาพได้ออกมาตำหนิ เพราะจะทำให้การลดการสูญเสียชีวิตจากยาสูบปีละ 700,000 คน ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องล่าช้าออกไปอีก จากการชะลอมาตรการควบคุมยาสูบที่มีประสิทธิภาพตามกฎหมายใหม่” ศ.นพ.ประกิต กล่าวและว่า ล่าสุด บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ ฟิลลิป มอร์ริส ได้ว่าจ้างล็อบบียิสต์ถึง 161 คน ในการวิ่งเต้นกับสมาชิกสภาของสหภาพยุโรป 233 คน ซึ่งเป็น 31% ของสมาชิกสภาทั้งหมด ที่มีการพิจารณาร่างนโยบายควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ ซึ่งความพยายามนี้ก็ไม่ได้ต่างจากความพยายามของฟิลลิป มอร์ริส ในการพยายามออกมาวิ่งเต้นคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขไทย ที่ปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ภายหลังจากที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2535 โดยเป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งสมาคมผู้ค้ายาสูบไทยที่ออกมาคัดค้าน รวมทั้งร่วมฟ้องศาลปกครองเพื่อยับยั้งประกาศขยายภาพคำเตือนเป็น 85%
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า สมาชิกสภาแห่งสหภาพยุโรปได้มีการพิจารณาร่างนโยบายควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ (Tobacco Products Directive) แทนฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งล้าสมัย เนื่องจากวิธีการตลาดของบริษัทยาสูบเปลี่ยนแปลงไปมาก รวมทั้งมีการนำแนวทางปฏิบัติในการควบคุมยาสูบภายใต้อนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลก มาบรรจุในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย อาทิ การพิมพ์ภาพคำเตือนขนาดใหญ่ การออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบห้ามขายบุหรี่มวนเล็ก และบุหรี่ที่เติมสารเพิ่มความเย้ายวนหรืออำนาจการเสพติด เช่น เมนทอล รสผลไม้ ช็อกโกแลต เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทบุหรี่ก็แสดงท่าทีต้องการให้ชะลอการลงมติออกกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ร่างกฎหมายใหม่ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 2556 ต้องเลื่อนการลงมติออกไปจาก ก.ย.ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม
“การเลื่อนการลงมติออกไป ทำให้ฝ่ายสุขภาพได้ออกมาตำหนิ เพราะจะทำให้การลดการสูญเสียชีวิตจากยาสูบปีละ 700,000 คน ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องล่าช้าออกไปอีก จากการชะลอมาตรการควบคุมยาสูบที่มีประสิทธิภาพตามกฎหมายใหม่” ศ.นพ.ประกิต กล่าวและว่า ล่าสุด บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ ฟิลลิป มอร์ริส ได้ว่าจ้างล็อบบียิสต์ถึง 161 คน ในการวิ่งเต้นกับสมาชิกสภาของสหภาพยุโรป 233 คน ซึ่งเป็น 31% ของสมาชิกสภาทั้งหมด ที่มีการพิจารณาร่างนโยบายควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ ซึ่งความพยายามนี้ก็ไม่ได้ต่างจากความพยายามของฟิลลิป มอร์ริส ในการพยายามออกมาวิ่งเต้นคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขไทย ที่ปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ภายหลังจากที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2535 โดยเป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งสมาคมผู้ค้ายาสูบไทยที่ออกมาคัดค้าน รวมทั้งร่วมฟ้องศาลปกครองเพื่อยับยั้งประกาศขยายภาพคำเตือนเป็น 85%