กสร.ดึงผู้นำแรงงาน 13 องค์กรแก้ปัญหาค้ามนุษย์-ใช้แรงงานเด็ก เร่งขยายผลโครงการโรงงานสีขาว ส่งเสริมการทำงานปลอดภัย ด้านผู้นำแรงงานวอนรัฐบาลเร่งรับรองอนุสัญญาไอแอลโอฉบับ 87 และ 98
วันนี้ (5 พ.ย.) นายพานิช จิตร์แจ้ง ว่าที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวในการประชุมร่วมกับผู้นำแรงงานและเครือข่ายแรงงานสัมพันธ์ จำนวน 13 องค์กร ว่า ตนจะผลักดันภารกิจของกสร.ตามนโยบาย 3 ด้านของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับโดยเฉพาะแรงงานภาคประมง รวมทั้งแก้ปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ และการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง จึงอยากขอความร่วมมือองค์กรแรงงานในเรื่องเหล่านี้และหากลงนามความร่วมมือกัน (เอ็มโอยู) ได้ก็พร้อมจะดำเนินการ
นายพานิช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถานประกอบการต่างๆ ไม่ควรจ้างลูกจ้างที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีอีกแล้ว กสร.จะทำเอ็มโอยูกับสถานประกอบการต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการใช้แรงงานเด็ก และจะออกหนังสือรับรองว่าสถานประกอบการที่ร่วมทำเอ็มโอยูไม่มีการใช้แรงงานเด็ก และอยากขอความร่วมมือองค์กรแรงงานช่วยสอดส่องในสถานประกอบการด้วย ส่วนปัญหาแรงงานภาคประมงนั้น กสร.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมประมง เพื่อให้ช่วยตรวจแรงงานโดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นพนักงานตรวจแรงงาน ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติด จะเร่งขยายผลโครงการโรงงานสีขาวให้มากที่สุด จะมีการออกเกณฑ์มาตรฐานโรงงานปลอดยาเสพติด 23 ข้อโดยมีการประเมินโรงงานทุก 3 ปี เพื่อให้เป็นโรงงานสีขาวอย่างยั่งยืน
"ผมจะเร่งส่งเสริมเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นวาระแห่งชาติ และจะเร่งจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ขณะเดียวกันก็จะดูแลแรงงานนอกระบบให้ได้รับการคุ้มครอง มีความปลอดภัยในการทำงานและคุณภาพชีวิตที่ดีโดยจะออกกฎหมายคุ้มครองดูแลแรงงานนอกระบบโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองดูแลเช่นเดียวกับแรงงานในระบบ”" นายพานิช กล่าว
นายอุดมศักดิ์ บุพนิมิต ประธานสภาองค์การลูกจ้างองค์การแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายทั้ง 4 เรื่องของ กสร.แต่ขณะนี้องค์กรแรงงานในสถานประกอบต่างๆ ไม่มีความมั่นคง จึงไม่มีอำนาจที่จะไปช่วยสนับสนุนงานเหล่านี้ของ กสร.ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้ให้การรับรองอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการปกป้องสิทธิในการจัดตั้ง และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการจัดตั้งและการเจรจาต่อรองร่วม จึงอยากให้ กสร.ช่วยผลักดันให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับเพื่อให้องค์แรงงานมีความเข้มแข็งและมั่นคง จะช่วยให้ดูแลงานต่างๆ ของ กสร.ได้เต็มที่ รวมทั้งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เอซี) ในปี พ.ศ.2558 ด้วย
วันนี้ (5 พ.ย.) นายพานิช จิตร์แจ้ง ว่าที่อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวในการประชุมร่วมกับผู้นำแรงงานและเครือข่ายแรงงานสัมพันธ์ จำนวน 13 องค์กร ว่า ตนจะผลักดันภารกิจของกสร.ตามนโยบาย 3 ด้านของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับโดยเฉพาะแรงงานภาคประมง รวมทั้งแก้ปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ และการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง จึงอยากขอความร่วมมือองค์กรแรงงานในเรื่องเหล่านี้และหากลงนามความร่วมมือกัน (เอ็มโอยู) ได้ก็พร้อมจะดำเนินการ
นายพานิช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถานประกอบการต่างๆ ไม่ควรจ้างลูกจ้างที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีอีกแล้ว กสร.จะทำเอ็มโอยูกับสถานประกอบการต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการใช้แรงงานเด็ก และจะออกหนังสือรับรองว่าสถานประกอบการที่ร่วมทำเอ็มโอยูไม่มีการใช้แรงงานเด็ก และอยากขอความร่วมมือองค์กรแรงงานช่วยสอดส่องในสถานประกอบการด้วย ส่วนปัญหาแรงงานภาคประมงนั้น กสร.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมประมง เพื่อให้ช่วยตรวจแรงงานโดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นพนักงานตรวจแรงงาน ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติด จะเร่งขยายผลโครงการโรงงานสีขาวให้มากที่สุด จะมีการออกเกณฑ์มาตรฐานโรงงานปลอดยาเสพติด 23 ข้อโดยมีการประเมินโรงงานทุก 3 ปี เพื่อให้เป็นโรงงานสีขาวอย่างยั่งยืน
"ผมจะเร่งส่งเสริมเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นวาระแห่งชาติ และจะเร่งจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ขณะเดียวกันก็จะดูแลแรงงานนอกระบบให้ได้รับการคุ้มครอง มีความปลอดภัยในการทำงานและคุณภาพชีวิตที่ดีโดยจะออกกฎหมายคุ้มครองดูแลแรงงานนอกระบบโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองดูแลเช่นเดียวกับแรงงานในระบบ”" นายพานิช กล่าว
นายอุดมศักดิ์ บุพนิมิต ประธานสภาองค์การลูกจ้างองค์การแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับนโยบายทั้ง 4 เรื่องของ กสร.แต่ขณะนี้องค์กรแรงงานในสถานประกอบต่างๆ ไม่มีความมั่นคง จึงไม่มีอำนาจที่จะไปช่วยสนับสนุนงานเหล่านี้ของ กสร.ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้ให้การรับรองอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการปกป้องสิทธิในการจัดตั้ง และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการจัดตั้งและการเจรจาต่อรองร่วม จึงอยากให้ กสร.ช่วยผลักดันให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับเพื่อให้องค์แรงงานมีความเข้มแข็งและมั่นคง จะช่วยให้ดูแลงานต่างๆ ของ กสร.ได้เต็มที่ รวมทั้งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เอซี) ในปี พ.ศ.2558 ด้วย