xs
xsm
sm
md
lg

กทม.ชี้ผู้ประกอบการไม่ใส่ใจปัญหา “คนขับ-กระเป๋ารถเมล์” ป่วยวัณโรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กทม.ส่งทีมเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรอง “คนขับ-กระเป๋ารถเมล์” ป่วยวัณโรคและโรคติดต่อทุกปี ยอมรับผู้ประกอบการเดินรถไม่ค่อยใส่ใจ พร้อมแนะป่วยควรหยุดพัก หรือหากจำเป็นให้ใช้อุปกรณ์ปิดปาก ทำตามแพทย์สั่งเพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อ ระบุ 20% ของผู้ป่วยวัณโรคในไทยอยู่ในการดูแลของ กทม.

วันนี้ (1 ต.ค.) นางวันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากผลการวิจัย “อัตราการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มผู้ให้บริการบนรถสาธารณะ ปี 2556” โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนขับรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานเก็บเงิน เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อวัณโรค มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสแพร่เชื้อโรคต่อไปยังกลุ่มผู้ โดยสารมากที่สุด เนื่องจากผู้ขับขี่รถสาธารณะและกระเป๋ารถเมล์มีภาวะที่ต้องอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้จำกัด เป็นเวลานาน ซึ่งเชื้อวัณโรคจึงสามารถแพร่ไปสู่คนในวงกว้าง เพราะกระจายไปตามอากาศและลมหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอชไอวี (HIV) มีโอกาสได้รับการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคได้ง่าย

นางวันทนีย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรุงเทพมหานครได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปคัดกรองกับผู้ขับขี่รถสาธารณะ เป็นประจำทุกปี ซึ่งโดยปกติแล้วก่อนการเข้าทำงานจะต้องมีการตรวจร่างกายเพื่อหาภาวะโรค ติดต่ออยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงผู้ประกอบการเดินรถส่วนมากไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับโรคดังกล่าวมากนัก ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะพบว่ามีการติดเชื้อควรจะต้องหยุดงาน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่หากไม่สามารถหยุดได้จะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันคือผ้าปิดปากที่สามารถใช้ป้องกันได้ อีกทั้งผู้ที่ได้รับเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี โดยในระยะแรกคือการรักษาอย่างเข้มงวดผู้ที่ได้รับเชื้อโรคจะต้องปฏิบัติตน ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ส่วนระยะ 4 เดือนต่อมาผู้ได้รับเชื้อจะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงควรจะทำการตรวจคัดกรองโรค โดยสามารถเข้าการตรวจได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัด กทม.ได้ฟรี อย่างไรก็ตามขณะนี้ประเทศไทยติดอับดับ 1 ใน 22 ประเทศที่พบว่ามีปัญหาวัณโรคมากที่สุด โดยจำนวนผู้ป่วยวัณโรคที่อยู่ในความดูแลของ กทม.มีผู้ป่วยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ป่วยทั้งหมด
 

กำลังโหลดความคิดเห็น