สาวพม่าตกรถเมล์ถูกล้อทับหัวเละย่านตลาดปทุมฯ หลังจากซื้อเสื้อผ้าชุด นร.ให้ลูกเนื่องจากจะเปิดเทอม กระเป๋ารถเมล์ชี้รีบลงรถขณะรถวิ่งอยู่
วานนี้ (1 พ.ค.) พ.ต.ท.บรรจง หนูหว้า สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเมล์ทับคนเสียชีวิตกลางถนน ปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว บริเวณทางแยก เข้าตลาดปทุมธานี จุดกลับรถหน้าธนาคารทหารไทย ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลปทุมธานี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบริเวณทางกลับรถ พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนน ทราบชื่อคือ น.ส.คำดี สัญชาติพม่า อายุ 27 ปี สภาพศพถูกล้อรถเมล์ทับที่ศีรษะและลำตัวช่วงหน้าอก นอนคว่ำจมกองเลือดอยู่กลางถนน ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถเมล์ประจำทางสายบ้านแพน-นนทบุรี สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 10-0468 ปทุมธานี ขยับไปจอดอยู่ริมทาง ตรวจสอบคนขับ คือ นายนภดล กานสมพจน์ อายุ 38 ปี และนายอานนท์ ชนะจิต อายุ 29 ปี กระเป๋ารถเมล์ จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน โดยในที่เกิดเหตุก่อนถึงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนปทุมวิไลยประมาณ 100 เมตร พบนายทูน อายุ 30 ปี สัญชาติพม่า สามีผู้ตาย นั่งร่ำไห้อยู่ริมถนนด้วยความเสียใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน นายสิงห์ อายุ 30 ปี ให้การว่า ทำงานอยู่ที่โรงงานย่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้เป็นวันหยุดจึงเดินทางมาตลาดปทุมธานีเพื่อหาซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งผู้ตายก็มาซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียนให้ลูกเนื่องจากจะเปิดเทอม โดยแยกกันเดินซื้อของแล้วนัดเจอกันที่หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส โดยสามีและเพื่อนแยกออกไปกดเงินที่หน้าธนาคาร ส่วนผู้ตายได้กระโดดขึ้นรถเมล์คันดังกล่าว แต่กระเป๋ารถเมล์แจ้งว่ารถไม่ได้ผ่านไปทางหน้าโลตัส ผู้ตายจึงพยายามจะลงจากรถป้ายหน้าโรงเรียนปทุมวิไลย คาดว่าก้าวบันไดพลาดจากขั้นบนจึงทำให้พลัดตกหัวทิ่มลงและเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
คนขับรถเมล์ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ขับรถออกจากท่ารถที่ตลาดปทุมธานีมุ่งหน้าไปจังหวัดนนทบุรี แต่ตนเองไม่ทราบเหตุการณ์ ได้ยินเพียงว่าคนตกรถจึงได้ขับไปจอดข้างทาง
ส่วนนายอานนท์ ชนะจิตร อายุ 29 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสารให้การว่า ขณะตนเองกำลังจะเก็บค่าโดยสาร ผู้ตายได้ถามตนเองว่าจะไปลงโลตัส แต่ตนบอกผู้ตายไปว่ารถไปท่าน้ำนนทบุรี และผู้ตายได้หันไปมองสามี แต่ไม่พบเนื่องจากสามีขึ้นรถไม่ทัน ทำให้ผู้ตายรีบจะลงทั้งๆ ที่รถยังไม่จอด โดยจุดที่ตกรถเป็นทางสี่แยก จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวม และบันทึกรายละเอียดไว้ที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบศพให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต) เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และจะได้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตพม่าเพื่อส่งศพกลับบ้านเกิดนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป