วิจัยพบกระเป๋ารถเมล์สาวถูกลวนลามดวยคำพูดมากสุด ทั้ง “นุ่งสั้น ดันทรง อึ๋มอย่างนี้ ได้สักทีจะไม่ลืมพระคุณ” หรือ “เด็กใหม่น่าฟันว่ะ” ส่วนผู้โดยสารหญิงก็ถูกผู้ชายใช้ของลับดัน ไม่เว้นแม้แต่คนท้อง สสส.ผุดโครงการตาสับปะรดช่วยแก้ปัญหา
น.ส.นัยนา พึ่งสุภา ผู้จัดการแผนสุขภาวะผู้หญิง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการจัดอบรมตาสับปะรดเรื่อง “การคุกคามทางเพศและการทำงาน : แนวทางการทำงานและการแก้ไข” ว่า หลายหน่วยงานมีปัญหาการคุกคามทางเพศ แต่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้และไม่มีหลักฐาน เช่น การลวนลามด้วยวาจา สายตา หรือถูกเนื้อต้องตัวแบบทีเล่นทีจริง ซึ่งบางครั้งผู้ถูกกระทำรู้สึกถูกคุกคามทางเพศโดยไม่รู้ตัว และจากผลการวิจัยพนักงาน ขสมก. 6,000 คน พบว่า วิธีการคุกคามทางเพศที่พบบ่อยที่สุด คือ การใช้คำพูด เช่น “นุ่งสั้น ดันทรง อึ๋มอย่างนี้ ได้สักทีจะไม่ลืมพระคุณ” หรือ “กระเป๋ารถเมล์มีแต่แก่ๆ ไม่มีสาวๆ เลยหรอ” “เด็กใหม่น่าฟันว่ะ” ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้หญิงเกิดความรู้สึกอึดอัดแต่ผู้ชายกลับรู้สึกการแซวแบบนี้เป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ ยังเกิดกรณีคุกคามทางเพศบนรถเมล์ ขสมก.กับผู้โดยสารทุกเพศ ทุกวัย
น.ส.นัยนา กล่าวอีกว่า แผนงานสุขภาวะผู้หญิงจึงเข้ามาให้ความรู้ ความเข้าใจ กับพนักงาน ขสมก.จาก 8 เขตการเดินรถ ทั่วกทม.และปริมณฑล โดยจัดอบรมตาสับปะรด 4 รุ่น จำนวน 120 คน สำหรับครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 1 เพื่อสร้างแกนนำในการเป็นหูเป็นตาป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศทั้งในองค์กร ขสมก.และบนรถโดยสาร
นางยงค์ ฉิมพลี พนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.ในฐานะคณะกรรมการป้องปรามและแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศในการทำงาน ขสมก.กล่าวว่า การคุกคามทางเพศเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยบนรถโดยสาร ส่วนใหญ่ผู้หญิงทุกวัยจะเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งนั่งอยู่บนรถก็ถูกชายสูงวัยเข้ามาประกบและใช้อวัยวะเพศเบียดไหล่ หรือกรณีที่พบเห็นบ่อยๆ ผู้หญิงยืนโหนรถเมล์ และมีผู้ชายลักษณะตั้งใจมายืนประกบข้างหลัง และอาศัยจังหวะเบรกเพื่อสัมผัสร่างกายผู้หญิง โดยที่ผ่านมา หากกระเป๋ารถเมล์พบเห็น ก็จะใช้วิธีส่งเสียงดังว่าให้เกิดความอับอาย ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล บางกรณีรุนแรงถึงขั้นโชว์ของลับ คนขับรถเมล์ก็จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยการปิดประตูรถและขับไปยังสถานีตำรวจหรือป้อมตำรวจในจุดที่ใกล้ที่สุด อย่างไรก็ตาม กระเป๋ารถเมล์ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ก็ถูกคุกคามทางเพศ เช่น จับมือ ลูบแขนขณะทอนเงิน หรือถูกลวนลามขณะเบียดเก็บค่าโดยสาร แต่มักไม่ได้รับความเห็นใจ เนื่องจากเป็นอาชีพบริการ และองค์กรให้ความสำคัญกับผู้โดยสารมากกว่า
“สำหรับกรณีการล่วงละเมิดภายในองค์กร มักจะเกิดขึ้นในรูปแบบของการเอาเรื่องเซ็กซ์เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น หรือการถูกคุกคามเนื่องจากสถานที่ปฏิบัติไม่ปลอดภัย เปลี่ยว แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือช่วงเวลาการทำงานแบ่งเป็นกะ เช่น ต้องเข้างานตี 3 ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศจากเพื่อนร่วมงาน ส่งผลต่อการทำงาน ความไม่ปลอดภัย และก่อให้เกิดปัญหาชู้สาวได้อีกด้วย ดังนั้น ทางคณะกรรมการฯ จึงได้จัดทำสติกเกอร์ข้อความ อาทิ “ใช้เสียงของท่าน หยุดการคุมคามทางเพศ” เพื่อรณรงค์การคุกคามทางเพศบนรถเมล์และที่ทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาวิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการคุกคามทางเพศได้เป็นอย่างดี” นางยงค์ กล่าว
น.ส.นัยนา พึ่งสุภา ผู้จัดการแผนสุขภาวะผู้หญิง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการจัดอบรมตาสับปะรดเรื่อง “การคุกคามทางเพศและการทำงาน : แนวทางการทำงานและการแก้ไข” ว่า หลายหน่วยงานมีปัญหาการคุกคามทางเพศ แต่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้และไม่มีหลักฐาน เช่น การลวนลามด้วยวาจา สายตา หรือถูกเนื้อต้องตัวแบบทีเล่นทีจริง ซึ่งบางครั้งผู้ถูกกระทำรู้สึกถูกคุกคามทางเพศโดยไม่รู้ตัว และจากผลการวิจัยพนักงาน ขสมก. 6,000 คน พบว่า วิธีการคุกคามทางเพศที่พบบ่อยที่สุด คือ การใช้คำพูด เช่น “นุ่งสั้น ดันทรง อึ๋มอย่างนี้ ได้สักทีจะไม่ลืมพระคุณ” หรือ “กระเป๋ารถเมล์มีแต่แก่ๆ ไม่มีสาวๆ เลยหรอ” “เด็กใหม่น่าฟันว่ะ” ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้หญิงเกิดความรู้สึกอึดอัดแต่ผู้ชายกลับรู้สึกการแซวแบบนี้เป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ ยังเกิดกรณีคุกคามทางเพศบนรถเมล์ ขสมก.กับผู้โดยสารทุกเพศ ทุกวัย
น.ส.นัยนา กล่าวอีกว่า แผนงานสุขภาวะผู้หญิงจึงเข้ามาให้ความรู้ ความเข้าใจ กับพนักงาน ขสมก.จาก 8 เขตการเดินรถ ทั่วกทม.และปริมณฑล โดยจัดอบรมตาสับปะรด 4 รุ่น จำนวน 120 คน สำหรับครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 1 เพื่อสร้างแกนนำในการเป็นหูเป็นตาป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศทั้งในองค์กร ขสมก.และบนรถโดยสาร
นางยงค์ ฉิมพลี พนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.ในฐานะคณะกรรมการป้องปรามและแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศในการทำงาน ขสมก.กล่าวว่า การคุกคามทางเพศเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยบนรถโดยสาร ส่วนใหญ่ผู้หญิงทุกวัยจะเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งนั่งอยู่บนรถก็ถูกชายสูงวัยเข้ามาประกบและใช้อวัยวะเพศเบียดไหล่ หรือกรณีที่พบเห็นบ่อยๆ ผู้หญิงยืนโหนรถเมล์ และมีผู้ชายลักษณะตั้งใจมายืนประกบข้างหลัง และอาศัยจังหวะเบรกเพื่อสัมผัสร่างกายผู้หญิง โดยที่ผ่านมา หากกระเป๋ารถเมล์พบเห็น ก็จะใช้วิธีส่งเสียงดังว่าให้เกิดความอับอาย ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล บางกรณีรุนแรงถึงขั้นโชว์ของลับ คนขับรถเมล์ก็จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยการปิดประตูรถและขับไปยังสถานีตำรวจหรือป้อมตำรวจในจุดที่ใกล้ที่สุด อย่างไรก็ตาม กระเป๋ารถเมล์ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ก็ถูกคุกคามทางเพศ เช่น จับมือ ลูบแขนขณะทอนเงิน หรือถูกลวนลามขณะเบียดเก็บค่าโดยสาร แต่มักไม่ได้รับความเห็นใจ เนื่องจากเป็นอาชีพบริการ และองค์กรให้ความสำคัญกับผู้โดยสารมากกว่า
“สำหรับกรณีการล่วงละเมิดภายในองค์กร มักจะเกิดขึ้นในรูปแบบของการเอาเรื่องเซ็กซ์เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น หรือการถูกคุกคามเนื่องจากสถานที่ปฏิบัติไม่ปลอดภัย เปลี่ยว แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือช่วงเวลาการทำงานแบ่งเป็นกะ เช่น ต้องเข้างานตี 3 ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางเพศจากเพื่อนร่วมงาน ส่งผลต่อการทำงาน ความไม่ปลอดภัย และก่อให้เกิดปัญหาชู้สาวได้อีกด้วย ดังนั้น ทางคณะกรรมการฯ จึงได้จัดทำสติกเกอร์ข้อความ อาทิ “ใช้เสียงของท่าน หยุดการคุมคามทางเพศ” เพื่อรณรงค์การคุกคามทางเพศบนรถเมล์และที่ทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาวิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการคุกคามทางเพศได้เป็นอย่างดี” นางยงค์ กล่าว