สปส.จัดอบรมแกนนำเครือข่ายประกันสังคมและเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ขยายการขึ้นทะเบียนประกันสังคม ม.40 กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล พร้อมชี้แจงหลักเกณฑ์ทางเลือกที่ 3 ของผู้ประกันตนมาตรา 40
วันนี้ (20 ก.ย.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการอบรมพัฒนาสมรรถนะแกนนำเครือข่ายประกันสังคมและเจ้าหน้าที่ประกันสังคม ที่ทำหน้าที่ขยายการขึ้นทะเบียนประกันสังคม มาตรา 40 และมอบนโยบายเรื่องการขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร พร้อมกล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานประกันสังคมมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 เพื่อพัฒนาบุคลากรแกนนำเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ประกันสังคมในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งสาขาต่างๆ รวม 330 คน ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประกันสังคมมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแกนนำเครือข่ายประกันสังคม ซึ่งจะส่งผลให้การขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทางเลือกที่ 3 ของการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ผ่านความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่ามีช่องทางการออมเงินไว้ใช้เมื่อชราภาพเพิ่มอีก 1 ทางเลือก คือ ทางเลือกที่ 3 อัตราเงินสมทบเดือนละ 200 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 100 บาท รัฐบาลสมทบ 100 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
สำหรับทางเลือกเดิม คือ ทางเลือกที่ 1 อัตราเงินสมทบเดือนละ 100 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 70 บาท และรัฐบาลสมทบ 30 บาทต่อเดือน ได้รับเงินสิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต และทางเลือกที่ 2 อัตราเงินสมทบเดือนละ 150 บาท โดยผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 100 บาท และรัฐบาลสมทบ 50 บาทต่อเดือน ได้รับเงินสิทธิประโยชน์เหมือนทางเลือกที่ 1 และเพิ่มเงินออมชราภาพ โดยตั้งเป้าในปี 2557 จะเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านคน จากปัจจุบันมีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 1.5 ล้านคน
ด้านนางสมสวย สาหร่ายทอง แกนนำเครือข่ายประกันสังคมเขตบางพลี กล่าวว่า ตนเข้ามาทำหน้าที่ในการเป็นแกนนำเครือข่ายประกันสังคมเป็นเวลา 2 ปี เห็นว่าประชาชนให้การยอมรับมากขึ้นจากที่ไม่เคยได้รับข้อมูลข่าวสารมาก่อน แต่เมื่อมีแกนนำเข้ามาเเนะนำข้อมูล ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและมีความสนใจที่จะเข้าร่วม สำหรับเขตพื้นบางพลีที่ตนดูแลอยู่ มีประชาชนสนใจที่จะเข้าร่วมกับประกันสังคมมาตรา 40 จำนวนประมาณ 400-500 คน และมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และจากการสำรวจความคิดของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุเกี่ยวกับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ พบว่าอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยในเรื่องเงินสมทบเเละข้อมูลเพิ่มขึ้น ว่าทำเเล้วได้อะไรมีสิ่งตอบแทนอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การที่มีมาตรา 40 เข้ามาก็เป็นส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้นซึ่งอยากให้มีมานานเเล้ว
วันนี้ (20 ก.ย.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการอบรมพัฒนาสมรรถนะแกนนำเครือข่ายประกันสังคมและเจ้าหน้าที่ประกันสังคม ที่ทำหน้าที่ขยายการขึ้นทะเบียนประกันสังคม มาตรา 40 และมอบนโยบายเรื่องการขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพมหานคร พร้อมกล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์การดำเนินงานประกันสังคมมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 เพื่อพัฒนาบุคลากรแกนนำเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ประกันสังคมในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งสาขาต่างๆ รวม 330 คน ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประกันสังคมมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแกนนำเครือข่ายประกันสังคม ซึ่งจะส่งผลให้การขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทางเลือกที่ 3 ของการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ผ่านความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่ามีช่องทางการออมเงินไว้ใช้เมื่อชราภาพเพิ่มอีก 1 ทางเลือก คือ ทางเลือกที่ 3 อัตราเงินสมทบเดือนละ 200 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 100 บาท รัฐบาลสมทบ 100 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
สำหรับทางเลือกเดิม คือ ทางเลือกที่ 1 อัตราเงินสมทบเดือนละ 100 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 70 บาท และรัฐบาลสมทบ 30 บาทต่อเดือน ได้รับเงินสิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต และทางเลือกที่ 2 อัตราเงินสมทบเดือนละ 150 บาท โดยผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 100 บาท และรัฐบาลสมทบ 50 บาทต่อเดือน ได้รับเงินสิทธิประโยชน์เหมือนทางเลือกที่ 1 และเพิ่มเงินออมชราภาพ โดยตั้งเป้าในปี 2557 จะเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านคน จากปัจจุบันมีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 1.5 ล้านคน
ด้านนางสมสวย สาหร่ายทอง แกนนำเครือข่ายประกันสังคมเขตบางพลี กล่าวว่า ตนเข้ามาทำหน้าที่ในการเป็นแกนนำเครือข่ายประกันสังคมเป็นเวลา 2 ปี เห็นว่าประชาชนให้การยอมรับมากขึ้นจากที่ไม่เคยได้รับข้อมูลข่าวสารมาก่อน แต่เมื่อมีแกนนำเข้ามาเเนะนำข้อมูล ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและมีความสนใจที่จะเข้าร่วม สำหรับเขตพื้นบางพลีที่ตนดูแลอยู่ มีประชาชนสนใจที่จะเข้าร่วมกับประกันสังคมมาตรา 40 จำนวนประมาณ 400-500 คน และมีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และจากการสำรวจความคิดของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุเกี่ยวกับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ พบว่าอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยในเรื่องเงินสมทบเเละข้อมูลเพิ่มขึ้น ว่าทำเเล้วได้อะไรมีสิ่งตอบแทนอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การที่มีมาตรา 40 เข้ามาก็เป็นส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้นซึ่งอยากให้มีมานานเเล้ว